LHย้ำรายได้ปีนี้ตามนัด3หมื่นล้าน เลื่อนเปิดบริการTerminal 21 พระราม 3 ต้นปี 65
Loading

LH ย้ำรายได้ปีนี้ตามนัด3หมื่นล้าน เลื่อนเปิดบริการTerminal 21 พระราม 3 ต้นปี 65

วันที่ : 21 กรกฎาคม 2564
แผนการเปิดศูนย์การค้า Terminal 21 พระราม 3 อาจจะต้องเลื่อนกำหนดเปิดให้บริการไปเป็นต้นปี 65 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4/2564
          “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ย้ำมั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัด 30,000 ล้านบาท หลังตุนแบ็กล็อกรอโอนกว่า 7,000-8,000 ล้านบาท  ขณะที่ครึ่งปีหลังเตรียมเปิดขายแนวราบ 8 โครงการ มูลค่ารวม 5,000-6,000 ล้านบาท หนุนยอดขายทั้งปีเข้าเป้า 28,000 ล้านบาท แม้ยอมรับโควิด-19 กระทบธุรกิจโรงแรม-ศูนย์การค้าในครึ่งปีหลัง นอกจากนี้มาตรการปิดแคมป์ก่อสร้างกระทบงานก่อสร้างโครงการ “Terminal 21 พระราม 3” เลื่อนไปเปิดบริการต้นปี 65 จากเดิมคาดไตรมาส 4/64

          นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ในปี 2564 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท หลังล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งการรับรู้รายได้ในปี 2564 ส่วนใหญ่ และยังมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบที่สร้างรายได้เข้ามาต่อเนื่อง และยังมีการทยอยโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาเสริมในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างโครงการ The Key เพชรเกษม 48 และคอนโดมิเนียมอื่น ๆ เข้ามาต่อเนื่องประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท

          ขณะเดียวกัน บริษัทยังมั่นใจจะทำยอดขาย (Presale) ในปี 2564 ได้ตามเป้าที่วางไว้ 28,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำยอดขายได้แล้ว 50% ของเป้าหมายทั้งปี โดยมาจากการขายโครงการแนวราบ ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก และมองว่าความต้องการซื้อแนวราบยังมีอยู่มาก จากพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าที่เปลี่ยนไป

          สำหรับธุรกิจการขายที่อยู่อาศัยของบริษัทในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 มองว่าโครงการแนวราบยังมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการแนวราบ จำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/2564 โดยในปี 2564 บริษัทวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม จำนวน 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,600 ล้านบาท

          นายอดิศร กล่าวต่อว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยที่ยาวนานและต่อเนื่อง ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทในครึ่งปีหลังอยู่บ้าง โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้า ซึ่งยังจะได้รับแรงกดดันตลอดทั้งไตรมาส 3/2564  ขณะที่บริษัทยังคงคาดหวังว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/2564 ซึ่งจะทำให้กิจกรรมต่าง ๆ กลับมาเป็นปกติ และสามารถเปิดประเทศได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมและศูนย์การค้าที่อิงกับธุรกิจท่องเที่ยว โดยจะกลับมาสร้างรายได้เสริมให้กับบริษัทได้

          ทั้งนี้ สถานการณ์โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อแผนการเปิดศูนย์การค้า Terminal 21 พระราม 3 ซึ่งอาจจะต้องเลื่อนกำหนดเปิดการให้บริการไปเป็นต้นปี 2565 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4/2564 โดยส่วนหนึ่งมาจากมาตรการปิดแคมป์คนงาน เป็นระยะเวลา 1 เดือน ทำให้การก่อสร้างต้องล่าช้าออกไป แต่บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนโครงการโรงแรมแห่งใหม่ตามแผน 3-4 โครงการ ในทำเลสุรวงศ์ ราชดำริ และลุมพินี และพัทยา 2 ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการไปจนถึงปี 2567
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ