ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ระบุ ผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ฉุดดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ไตรมาส 1 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.2 ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ลุ้นมาตรการลดค่าธรรมเนียมอัดโปรโมชั่นดันตลาดอสังหาคึก

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า รายงานดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 1 ปี 2564 ว่ามีค่าดัชนีเท่ากับ 128.2 ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เริ่มเห็นการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.3%

          ค่อนข้างชัดเจนว่าบ้านจัดสรรในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ราคายังคงถูกกว่าต้นปี 2563 เล็กน้อย หลังจากที่ลดต่ำลงต่อเนื่องติดต่อกันมา 3 ไตรมาสในช่วงไตรมาส 2 ถึง 4 ปี 2563 ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ทั้งนี้หากสถานการณ์ โควิด-19 ยังคงรุนแรง ก็อาจทำให้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรกลับมาปรับตัวลดลงเล็กน้อยหรือทรงตัวในไตรมาส 2 ปี 2564 ได้

          ช่วงไตรมาส 2 ถึง 4 ปี 2563 เป็นช่วงที่ราคาบ้านจัดสรรใหม่ปรับลดต่อเนื่องจากโปรโมชั่นต่างๆ ของสต๊อกที่มีอยู่เดิมเป็นสำคัญ แต่สังเกตได้ว่าพอเข้าสู่ไตรมาส 1 ปี 2564 ก็กลับมีการปรับขึ้นสูงกว่าไตรมาส 4 ปี 2563 ประมาณ 0.3% ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรใหม่ๆ ในช่วงที่ผ่านมาที่มีต้นทุนราคาที่ดิน สูงขึ้น และเป็นสินค้าที่มีความต้องการในตลาดสูง"

          นายวิชัย กล่าวอีกว่า เมื่อจำแนกดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่ ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่ากรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.1 ลดลง 0.2% แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 129 ลดลง 0.2% แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.2%

          นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า สำหรับรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ 46.6% เป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ ฟรีค่าส่วนกลาง รองลงมา 32.8% เป็นของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำ ฯลฯ และ 20.5% เป็นส่วนลดเงินสด

          นายวิชัยกล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลมีมาตรการขยายระยะเวลากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์โดยลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับบ้านใหม่ ไปจนถึงสิ้นปีนี้ น่าจะมีผลต่อการกระตุ้นตลาดบ้านประเภททาวน์เฮาส์ เนื่องจากยังคงมีหน่วยขายระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท พอสมควรแต่สำหรับบ้านเดี่ยวน่าจะได้รับประโยชน์น้อย

          นอกจากนี้มาตรการการเลื่อนประกาศอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปเป็นปีหน้า และลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเหลือ 10% ถือเป็นมาตรการที่สำคัญช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ช่วยให้สามารถเสนอขายบ้านจัดสรรในราคาต่ำลงได้