ลุยปรับกลยุทธ์กระตุ้นกำลังซื้อRMLรีแบรนด์ขยายฐานลูกค้า

          นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปี 2564 ธุรกิจรับสร้างบ้านอาจจะต้องเหนื่อยอยู่พอสมควร เนื่องจากมีปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจกระทบกับความเชื่อมั่นในการตัดสินใจ แม้ล่าสุดภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นลดค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งก็อาจจะไม่ช่วยกระตุ้นตลาดได้เท่าที่ควร เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อ บ้านต่ำกว่า 3 ล้านมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ค่อนข้างสูง สวนทางกับธุรกิจรับสร้างบ้านซึ่งไม่มีมาตรการจากภาครัฐเข้า มาช่วยเหลือ ผู้ประกอบการจึงคงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคให้เร็วขึ้น

          สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงานโดยหันมาเจาะตลาดไฮเอนด์เพิ่มมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมามีกลุ่มลูกค้าเฉพาะที่มีกำลังซื้อสูงและต้องการสร้างบ้านพร้อมตกแต่งภายใน ให้ความสนใจและเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัย โดยเฉพาะกลุ่มราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป พบว่ามีอัตราการเติบโตสวนทางกับภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านที่ชะลอตัว ล่าสุดได้เปิดตัวเปิดตัว 4 แบบบ้านใหม่เอาใจผู้ที่ชื่นชอบบ้านลักชัวรี ในราคาค่าก่อสร้างเริ่มต้นที่ 30 ล้านบาทอีกด้วย

          นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไรมอน แลนด์ (RML) กล่าวว่า ปี 2564 เป็นปีที่บริษัทจะทำการการรีแบรนด์เพื่อยกระดับ ภาพลักษณ์ให้เข้าถึงง่าย ทัน สมัย มีสไตล์มากยิ่งขึ้น สอด คล้องกับการปรับวิสัยทัศน์ และต้องการขยายกลุ่มเป้าหมายให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ และทุกเจเนอเรชั่นที่มีกำลังซื้อของตลาดระดับบน ซึ่งขณะนี้ได้มีการเริ่มกันภายในองค์กร และเริ่มจะมีการใช้โลโก้ใหม่ในส่วนของรั้วโครงการและเปลี่ยนโลโก้ตามโครงการต่อ ไปส่วนการปรับแบรนด์ครั้งนี้ เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะนำมาซึ่งมิติใหม่ของบริษัท โดยคาดว่าผู้บริโภคจะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ไรมอน แลนด์ ในภาพลักษณ์ใหม่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับ การพัฒนาคุณภาพคอนโดมิเนียม และบริการ โดยนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวน การทำงาน

          ทั้งนี้ ไรมอน แลนด์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2530 เป็นบริษัทที่มีประวัติยาวนาน เจาะกลุ่มตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี โดยกลุ่มผู้ใหญ่รู้จักแบรนด์เป็นอย่างดี แต่ในวัยกลางคนลงไปยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แน่นอนว่ายังคงรักษากลุ่มลูกค้าเดิมไว้ ในขณะเดียว กันกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่มีศักยภาพสูงมาก สร้างรายได้ให้ตัวเองตั้งแต่อายุ 20 ปี ภาพของความ ลักชัวรีในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงยาก นั่นเป็นเหตุผลที่อยากทำให้แบรนด์ยังคงลักชัวรี แต่ในขณะเดียวกันสามารถเข้าถึงทุกเจเนอเรชั่น