3สมาคมอสังหาฯยื่น5ข้อกระตุ้นตลาดวอนเลิกLTVเพิ่มกำลังซื้อ-ลดปฏิเสธสินเชื่อ
Loading

3สมาคมอสังหาฯยื่น5ข้อกระตุ้นตลาดวอนเลิกLTVเพิ่มกำลังซื้อ-ลดปฏิเสธสินเชื่อ

วันที่ : 17 ธันวาคม 2563
อสังหาฯ ยื่น 5 ข้อ กระตุ้นศก. ต่อลมหายใจ ตลาดอสังหาฯ ปี 64
          3 สมาคม อสังหาฯ ยื่น 5 ข้อเสนอแนะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคธุรกิจอสังหาฯ ต่อ กระทรวงการคลัง เชื่อรัฐหนุน ต่อมาตรการเดิม พร้อมเพิ่มเติมมาตรการกระตุ้นตัวใหม่ วอนยกเลิก LTV ชั่วคราวช่วยลดยอดปฏิเสธสินเชื่อ ส่งเสริมประชาชนมีที่อยู่อาศัยของตนเอง เผยคืบหน้างานมหกรรมบ้านฯ ขยายเพิ่มพื้นที่จัดงานเป็น 3 ฮอล หลังอสังหาฯ แห่ร่วมออกบูทกว่า 260 ราย ขนกว่า 1,000 โครงการร่วมบูม มั่นใจคนร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย คาดยอดขายในงานกว่า 4,000 ล้านบาท

          นายชัยรัตน์ ธรรมพรี อุปนายกสมาคมอาคารชุดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 42 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา สมาคมคือสมาคมอาคารชุดไทย, สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้ยื่นหนังสือ ข้อเสนอแนะแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ ต่อ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอมาตรการเร่งด่วน แก้ปัญหาและกระตุ้นผู้ซื้อเร่งตัดสินใจซื้อ ช่วยประคองสถานการณ์ตลาดในปัจุบัน

          โดยทั้ง 3 สมาคมฯ ได้เสนอให้มีการต่ออายุมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ 5 ข้อ คือ 1. ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และค่สธรรมเนียมการจดจำนองลงถึงอัตรสต่ำสุด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในทุกประเภท ทุกระดับราคา ทั้งที่อยู่อาศัยใหม่ และบ้านมือสองจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 64

          2. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการยกเลิกการบังคับใช้มาตรการ LTV เป็นการชั่วคราวเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อ สสมารถซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนได้มากขึ้น โดยเชื่อว่าทุกสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อที่อยู่อาศัย มีระบบการพิจารณาที่เข้มงวดอยู่แล้ว

          3. ขอให้มีการประกาศขยายการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 9% ออกไปอีก 2 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 65 เพื่อช่วยบรรเทาภาระให้กับประชาชน และผู้ประกอบการทั่วประเทศ

          "ขอให้ผู้ซื้อห้องชุดชาวต่างชาติได้รับวีซ่า โดยมีระยะเวลาตามมูลค่าของห้องชุด เช่น ห้องชุดมูลค่า 3-5 ล้านต่อห้อง ได้รับวีซ่าเป็นเวลา 5 ปี มูลค่า 5-10 ล้านต่อห้อง ได้รับวีซ่าเป็นเวลา 10 ปี มูลค่าเกิน 10 ล้าน ต่อห้อง ได้รับสิทธิ์มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย"

          5. ขอให้นำโครงการบ้านดีมีดาวน์ มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยที่ภาครัฐสนับสนุนเงินลดภาระการผ่อนดาวน์ในรูปแบบของ Cash Back ให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย กลับมาใช้อีกครั้ง และขอเพิ่มวงเงินจากเดิม 50,000 บาทต่อราย เป็น 100,00 บาทต่อราย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้มากขึ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 64

          ทั้งนี้ เชื่อว่ารัฐบาลจะมีการต่ออายุมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ พร้อมกันนี้คาดว่าจะมีการออกมาตรการใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 64 อย่างไรก็ตามมาตรการที่ทั้ง 3 สมาคม ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการมากที่สุดคือการยกเลิกมาตรการ LTV เป็นการชั่วคราวซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและลดปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน

          โดยที่ผ่านมาผลจากมาตรการ LTV ทำให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นถึง 40% จากเดิมที่มีอัตราการเฉลี่ยตามปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงปกติอยู่ที่ 10 -15% ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการกระตุ้นให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้อย่างแท้จริง จำเป็นต้องมีการยกเลิกมาตรการ LTV ออกไปชั่วคราวก่อนเพื่อส่งเสริมให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้

          นายชัยรัตน์ กล่าวถึงงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 42 ว่า จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-7 มี.ค. 2564 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มพื้นที่การจัดงานขึ้น จากเดิมที่ใช้พื้นที่ในการจัดงาน 2 ฮอล ขยายเป็น 3 ฮอล เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการที่แสดงความจำนงเข้าร่วมออกบูทในงานดังกล่าวโดยขณะนี้มีบริษัทที่เข้าร่วมออกบูทในงานแล้ว 250 ราย หรือมีโครงการที่เตรียมจะออกบูทในงานกว่า 1,000 โครงการ

          โดยในครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 100,000 ราย เนื่องจากในปีที่ผ่านมาผู้บริโภคมีการชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ แต่งานได้มีการเลื่อนการจัดออกมา 2 ครั้ง ทำให้ในปีที่ผ่านมาไม่มีการจัดงานเกิดขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์อั้นมาตั้งแต่ปีก่อน ประกอบกับงานในครั้งนี้ผู้ประกอบการที่ร่วมออกบูทเตรียมโปรโมชันพิเศษทั้งของแถมและส่วนลดราคาพิเศษจำนวนมากเพื่อระบายสต๊อกสินค้าในมือออกไปโดยคาดว่างานในปีนี้จะมียอดซื้อขายที่อยู่อาศัยไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ