มาตรการรัฐ-ดอกต่ำ-จัดโปร
Loading

มาตรการรัฐ-ดอกต่ำ-จัดโปร

วันที่ : 20 พฤศจิกายน 2563
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ทิศทางในปี 64 คาดการณ์ว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 353,236-383,272 หน่วย มูลค่า 8.76- 9.5 แสนล้านบาท
          ดันอสังหาฯปีหน้าฟื้นแน่

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใหม่ตลอดทั้งปี 63 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 351,640 หน่วย ปรับตัวลดลง 10.3% จากปีก่อนที่มียอดโอน 391,964 หน่วย และมีมูลค่า 862,500 ล้านบาท ลดลง 7.3% จากปีก่อนที่ได้ 930,751 ล้านบาท หรือลดไป 68,251 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่า มีโครงการเปิดตัวใหม่เหลือเพียง  71,467 หน่วย ลดลงไป 27.3% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงของโครงการคอนโดมิเนียมมากสุดถึง 50% ขณะที่บ้านจัดสรรยังมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้น 1.4%

          "ยอดการโอนที่ลดลงเป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุน รวมถึงชาวต่างชาติเข้ามาซื้อลดลง อย่างไรก็ตามหลังจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นการจับจ่าย ประกอบกับผู้ประกอบการจัดโปรโมชั่น ลดราคา ทำให้ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยไตรมาส 3 เริ่มฟื้นตัว มีจำนวน 93,230 หน่วย มูลค่า 246,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.1% จากไตรมาสก่อนหน้า"

          ส่วนยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยสะสม 9 เดือน มีทั้งสิ้น 261,855 หน่วย มูลค่า 668,936 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากปีก่อน 7.9% แบ่งเป็นการโอนกรรมสิทธิ์บ้านจัดสรร 180,322 หน่วย มูลค่า 458,280 ล้านบาท ติดลบ 6.1% ขณะที่คอนโดมิเนียม 81,533 หน่วย มูลค่า 210,656 ล้านบาท ติดลบ 11.6% แต่เป็นการติดลบน้อยลงนับเป็นสัญญาณบวกที่ดีขึ้น

          ด้านทำเลที่มีโครงการเปิดตัวใหม่สะสมมากที่สุดใน 9 เดือนแรก จำนวน 5 ทำเล ประกอบด้วย ย่านลำลูกกา-คลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ จำนวน 6,153 หน่วย รองลงมาเป็นเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้วสามโคกจำนวน 4,677 หน่วย ย่านบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวยไทรน้อย จำนวน 4,210 หน่วย  ย่านเมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด จำนวน 3,799 หน่วย และย่านบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง จำนวน 3,495 หน่วย โดยกลุ่มราคาที่มีการเปิดตัวใหม่สูงสุดคือระดับ 2.01-3.00 ล้านบาท มีจำนวน 17,557 หน่วย คิดเป็น 34.6% ของหน่วยที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

          นายวิชัย กล่าวว่า ทิศทางในปี 64 คาดการณ์ว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 353,236-383,272 หน่วย มูลค่า 8.76- 9.5 แสนล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดก่อนหน้า เนื่องจากมีปัจจัยบวกเพิ่มเข้ามาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ และการจัดโปรโมชั่นของผู้ประกอบการ ขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลปี 64 จะเพิ่มขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ 88,828-102,151 หน่วย เติบโต 24.3-42.9% จากปีก่อน และมีมูลค่า 4-4.48 แสนล้านบาท

          "โครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา เป็นผลจากฐานที่ค่อนข้างต่ำมากในปี 63 โดยสัดส่วนของโครงการบ้านจัดสรรจะมีจำนวน 44,069 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 286,463 ล้านบาท ส่วนอาคารชุดมีจำนวน 36,784 หน่วย มูลค่า 113,843 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ภาพรวมแนวโน้มของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 64 จะค่อย ๆ ขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ ต่อจากในช่วงครึ่งหลังของปี 63 และมั่นใจด้วยว่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 64 ซึ่งถือว่าเป็นการฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ที่คาดกันว่าจะขยายตัวเติบโตเป็นบวก"
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ