เช่าอาคารสำนักงาน'ซีบีดี'เกือบเต็ม 100% ทั้งเกรดเอ-บี อานิสงส์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซโตพุ่งหลังเจอโควิด อนาคตยังน่าห่วง พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนนิยมออฟฟิศไซซ์กระชับ ตลาดคอนโดเริ่มฟื้น หลังผู้ประกอบการพร้อมใจลดราคาต่ำกว่าตลาด แต่ยังขายต่ำว่าปี 62 โครงการใหม่ปลายปียังไม่คึกคัก หลายเจ้าขอชะลอไปก่อน

          นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ไตรมาสสาม 2563 พบว่าอุปสงค์และอุปทานใหม่ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่ตลาดอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีในช่วงไตรมาสก่อนหน้า ผู้ประกอบการเริ่มกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่อย่างคึกคักหลังชะลอเปิดโครงการช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ 18 โครงการ 8,344 ยูนิต มูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 28,401 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า 7,138 ยูนิต แต่ยังลดลง 24.6% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 คิดเป็น 2,715 ยูนิต

          นายภัทรชัยกล่าวว่า กำลังซื้อในประเทศเริ่มมีแนวโน้ม ปรับตัวดีขึ้น โครงการคอนโดขายใหม่ช่วงที่ผ่านมามีอัตราขายเฉลี่ยประมาณ 43% เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า 14% และยังพบว่ามีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ 2 ราย สามารถปิดการขายได้ 100% ในช่วงพรีเซลล์

          "พื้นที่ใจกลางเมือง และในทำเลย่านอ่อนนุช รวมถึงอีก 3 โครงการของกรมธนารักษ์ พื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย ห้วยขวาง และยานนาวา สามารถปิดการขายได้ในเวลารวดเร็ว เพราะโครงการมีจุดขายที่ชัดเจนทั้งเรื่องทำเลที่ตั้ง ราคาขายต่ำกว่าราคาขายเฉลี่ยของโครงการที่เปิดขายกว่า 20% สะท้อนว่าผู้ประกอบการเลือกนำกลยุทธ์การขายด้านราคาให้นักลงทุนยังสามารถทำกำไรได้ และผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยสามารถเข้าถึงได้" นายภัทรชัยกล่าว

          นายภัทรชัยกล่าวถึงอุปทานคงค้างในตลาดว่า คอนโดสร้างเสร็จยังคงทยอยปิดการขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการนำยูนิตเหลือขายมาปรับลดราคาและมี โปรโมชั่นดึงดูดความสนใจ ขณะที่อุปทานเปิดขายใหม่ปรับตัวลงเพื่อกลับสู่จุดสมดุลของตลาด โดยยังต้องใช้กลยุทธ์ด้านราคาต่ำกว่าตลาดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ เพราะภาพรวมตลาดยังอยู่ในภาวะชะลอตัว คาดการณ์ว่าปีนี้อุปาทานเปิดคอนโดใหม่ใน กทม.อาจลดลงเหลือไม่เกิน 20,000 ยูนิต ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าต่ำสุดในรอบ 10 ปี และคาดว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ เน้นพัฒนาโครงการแนวราบแทน

          นอกจากนี้ คอลลิเออร์สฯยังได้จัดทำบทวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ณ สิ้นไตรมาสสอง 2563 มีการใช้พื้นที่อาคารรวม 8.514 ล้าน ตร.ม. ส่วนใหญ่ในย่านธุรกิจ (ซีบีดี) โดยสัดส่วนการใช้พื้นที่อาคารเกรดเอ อยู่ที่ 93.9% อาคารเกรดบี 96.1% ขณะที่ความต้องการใหม่ใช้พื้นที่อาคารพบว่ามาจากการขยายตัวของธุรกิจ โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ตามพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด-19 นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงภาคธุรกิจได้ทรานส์ฟอร์มสู่ออนไลน์มากขึ้น และยังเห็นความต้องการใหม่จากการปรับปรุงอาคารเพื่อลดขนาดพื้นที่ใช้งานลง รับกับยุคนิว นอร์มอล ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้พื้นที่อาคารในอนาคต