นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้เอ็นพีแอลของสถาบันการเงินนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสถาบันการเงินตระหนักถึงประเด็นดังกล่าวและได้ดำเนินการโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาเอ็นพีแอลของผู้ประกอบการและประชาชนโดยเน้นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันและรวมหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเอ็นพีแอล โดยกลไกดังกล่าวจะเป็นการลดภาระหนี้ของลูกหนี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ลูกหนี้เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลูกหนี้จ่ายตลอดระยะเวลาสัญญาจะไม่เพิ่มขึ้นแต่จะทำให้ลูกหนี้มีภาระที่ต้องจ่ายต่องวดลดลง ซึ่งแตกต่างจากการขยายระยะเวลาการพักชำระหนี้ที่ลูกหนี้ยังคงต้องชำระหนี้ในช่วงที่มีการพักชำระหนี้ ซึ่งอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยที่ลูกหนี้จ่ายตลอดสัญญาสูงขึ้น

          ทั้งนี้ มาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และรวมหนี้มีรายละเอียดดังนี้ 1.โครงการ DRBIZ กำหนดให้มีกลไกบรรเทาและจัดการหนี้ธุรกิจของลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย ซึ่งเป็นการลดภาระหนี้ให้แก่ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพแต่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 2.โครงการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยเพิ่มเติมด้วยวิธีการรวมหนี้ กำหนดแนวทางให้ลูกหนี้รายย่อยสามารถรวมหนี้ประเภทต่างๆ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และเช่าซื้อ เป็นต้น และ 3.การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้ของลูกหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย