อสังหาฯไทยเลื่อนสถานะโปร่งใสโลก
Loading

อสังหาฯไทยเลื่อนสถานะโปร่งใสโลก

วันที่ : 10 กรกฎาคม 2563
ติดกลุ่ม10ประเทศดัชนีปรับขึ้นมากสุด - จ่อขนเงินเข้าเอเชียแปซิฟิก4หมื่นล.ดอลล์

          นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการ ผู้จัดการ เจแอลแอล ประเทศไทย เปิดเผยว่า เจแอลแอล ได้จัดทำรายงานดัชนีความโปร่งใสตลาดอสังหาริมทรัพย์โลกประจำปี 2563 ซึ่งจัดทำและเผยแพร่ทุกสองปีพบว่าประเทศไทยได้รับการปรับสถานะขึ้นไปอยู่ในกลุ่มประเทศที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความโปร่งใสเป็นครั้งแรก จากที่หลายปีที่ผ่านมาอยู่ในกลุ่มที่มีความโปร่งใสปานกลาง และพบว่าไทยเป็นประเทศที่มีดัชนีความโปร่งใสปรับตัวดีขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก จากทั้งหมด 99 ประเทศและเขตปกครองที่อยู่ในรายงานฉบับนี้ โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีดัชนีความโปร่งใสปรับตัวดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการปรับปรุงกฎระเบียบด้านต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้ อาทิ การยกระดับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ ข้อกำหนดให้มีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น การเปิดรับฟังความเห็นจากสาธารณะอย่างกว้างขวางสำหรับร่างผังเมืองฉบับใหม่กรุงเทพมหานคร ที่เดิมจะประกาศใช้ในปีนี้ แต่ล่าสุดได้เลื่อนไปใช้ ปี 2564

          "รายงานฉบับดังกล่าวมีเกณฑ์การวัดค่าดัชนีความโปร่งใสโดยพิจารณาจากปัจจัยหรือตัวแปรด้านต่างๆ โดยตลาดเกิดใหม่ในเอเชียแปซิฟิก เป็น กลุ่มที่มีการปรับตัวค่าดัชนีความโปร่งใสมากที่สุด โดยเฉพาะจากปัจจัยในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และการใช้เทคโนโลยี ทั้งนี้ จาก 10 ประเทศที่มีดัชนีความโปร่งใสปรับตัวดีขึ้นมากที่สุดในโลก มี 6 ประเทศที่อยู่ในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ จีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่าไทยปรับขึ้นจากที่เคยอยู่ในกลุ่มตลาดที่มีความโปร่งใสปานกลางไปอยู่ในกลุ่มตลาดโปร่งใส และเวียดนามออกจากกลุ่มตลาดโปร่งใสต่ำขึ้นไปอยู่ในกลุ่มตลาดโปร่งใสปานกลาง" นางสุพินท์กล่าว

          นางสาวเรจินา ลิม หัวหน้าฝ่ายวิจัย หน่วยธุรกิจบริการการลงทุนภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของเจแอลแอล กล่าวว่า แม้สถานการณ์โรคระบาดจะส่งผลให้กิจกรรมการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หยุดชะงัก ความต้องการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงมีอยู่ โดยพบว่ายังมีนักลงทุนจำนวนมากที่มีแผนลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียแปซิฟิกเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ความโปร่งใสของตลาดจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยในขณะนี้มีเม็ดเงินที่พร้อมเข้าลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชียแปซิฟิกรวมมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ