ศูนย์ข้อมูลชี้อสังหาฯภาคใต้ซึมยาว อุปสงค์-อุปทานปรับสู่ภาวะสมดุล
Loading

ศูนย์ข้อมูลชี้อสังหาฯภาคใต้ซึมยาว อุปสงค์-อุปทานปรับสู่ภาวะสมดุล

วันที่ : 12 มิถุนายน 2563
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผย ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต กระทบหนัก
          ศูนย์ข้อมูลฯเผยตัวเลขตลาดอสังหาฯภาคใต้ 4 จังหวัด พบหน่วยเปิดขาย 17,928 หน่วย ตลาดคอนโดฯ น่าห่วงและระมัดระวังในการลงทุน ภูเก็ตกระทบหนักสุด เอกชนแนะส่งเสริมการศึกษา โรงพยาบาล กีฬา ลดพึ่งพิงท่องเที่ยว

          นายบุญ ยงสกุล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตในปัจจุบันพึ่งพาการท่องเที่ยวมากถึง 99% เมื่อการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการลงทุนมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังได้รับผล กระทบมาก นอกจากนี้ ยังได้รับหลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ชาวต่างชาติชะลอการโอนหรือชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาส 1/2563 ของผู้ประกอบการบางรายจะยังเติบโตบ้าง แต่ในไตรมาส 2 เป็นต้นไปจะเห็นการลดลงของรายได้อย่างมีนัยสำคัญ

          ทั้งนี้ ยังมีบริษัทขนาดกลาง-ใหญ่ หลายรายยังคงลงทุนพัฒนาโครงการอยู่บ้าง โดยเฉพาะโครงการแนวราบ นอกจากนี้ยังเริ่มเห็นนักลงทุนเข้ามาหาซื้อที่ดินเพื่อเก็บไว้พัฒนาโครงการในอนาคตมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าในปี 1-2 ปีข้างหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะหยุดลง การท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้น

          อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาล พัฒนาให้ภูเก็ตเติบโตแบบยั่งยืน ลดการพึ่งพาการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว โดยพัฒนาให้เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจหลากหลาย เช่น ศูนย์กลางการศึกษา โรงพยาบาล การกีฬา นอกจากนี้ยังต้องการให้รัฐบาลพิจาณาขยายสัญญาเช่าเพิ่มจาก 30 ปี เป็น มากกว่า 50 ปี เพื่อดึงดูดผู้ซื้อชาวต่างชาติ ซึ่งประเทศเพื่อบ้านมีสัญญาเช่ามากึง 50-99 ปี

          ด้านศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสงขลาชะลอตัวมาก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าออกสู่ตลาดน้อย จึงสมดุลกับความต้องการที่มีในตลาด นอกจากนี้ เศรษฐกิจสงขลาไม่ได้พึ่งพาการท่องเที่ยวมากนักชาวต่างชาติที่มาส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย เมื่อเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 จึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยในพื้นที่ และชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ต้องการย้ายหรือความไม่สงบ

          อย่างไรก็ตาม ต้องการให้รัฐบาลหามาตรการเพื่อเพิ่มกำลังซื้อบ้านให้แก่ประชาชน ขยายมาตรการอย่าจำกัดแต่กลุ่มบ้านราคา 3 ล้านบาท หามาตรการช่วยคนซื้อบ้านง่ายขึ้น หรือคิดวิธีให้ประชาชนขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านผ่าน ยกเลิกมาตรการ LTV เพื่อเพิ่มกำลังซื้อ

          อสังหาฯ ภาคใต้ชะลอตัวต่อเนื่อง

          ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้รายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งหลังปี 2562 ในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ณ สิ้นปี 2562 มีโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวนทั้งสิ้น 17,928 หน่วย

          ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ สิ้นปี 2562 พบว่ามีจำนวนที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างเสนอขาย 133 โครงการ 9,291 หน่วยลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกร้อยละ -13.5 แบ่งเป็นอาคารชุด 5,978 หน่วย บ้านจัดสรร 3,313 หน่วย เนื่องจากที่ดินมีต้นทุนราคาที่สูงมากโครงการส่วนใหญ่จึงพัฒนาเป็นอาคารชุด โดยหน่วยเปิดขายใหม่ 1,207 หน่วย ประกอบด้วยอาคารชุด 868 หน่วย และบ้านจัดสรร 339 หน่วย  มีหน่วยเหลือขาย 1,550 หน่วย ลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกร้อยละ -31.8 ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายมีจำนวนทั้งสิ้น 7,741 หน่วย มูลค่า 37,409 ล้านบาท อัตราการดูดซับลดต่ำลงมาค่อนข้างมาก ในปี 2563 อัตราดูดซับจะลดทุกกลุ่มประเภทเหลือร้อยละ 1.1-1.8

          คอนโดฯ 3 จังหวัดน่าห่วง

          สำหรับ 3 จังหวัดได้แก่ จังหวัดสงขลา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลาดทาวน์เฮาส์ยังมีความต้องการซื้อที่ต่อเนื่อง แต่สำหรับอาคารชุดมีอัตราการดูดซับลดลงอย่างมาก ซึ่งพบว่า ในจังหวัดสงขลา มีโครงการที่อยู่อาศัยในครึ่งหลังปี 2562 จำนวน 127 โครงการ รวม 3,822  หน่วย โดยมีหน่วยเหลือขาย 3,054 หน่วย มูลค่า 11,739 ล้านบาท แบ่งเป็นอาคารชุด 305 หน่วย และบ้านเดี่ยว 1,224 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 830 หน่วย บ้านแฝด 565 หน่วย และอาคารพาณิชย์ 130 หน่วย บ้านจัดสรรมีอัตราการดูดซับ 3.5 ขณะที่อาคารชุดลดลงในทุกระดับราคาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 แต่ในปี 2563 คาดการณ์ว่าอัตราดูดซับจะลดต่ำลงในทุกกลุ่มประเภทที่อยู่อาศัย

          จังหวัดสุราษฎร์ธานี จากการสำรวจพบว่าในครึ่งหลังปี 2562 อุปทานภาพรวมมีที่อยู่อาศัยเสนอขายจำนวน 89 โครงการ รวม 3,188 หน่วย มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 237 หน่วย และมีหน่วยเหลือขาย 2,951 หน่วย คิดเป็นมูลค่าหน่วยเหลือขาย 9,334 ล้านบาท  ขณะที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าครึ่งหลังปี 2562 อุปทานเสนอขายจำนวน35 โครงการ รวม 1,627 หน่วย มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 86 หน่วย และมีหน่วยเหลือขายจำนวน 1,541 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 6,164 ล้านบาท
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ