รฟท. ลุยฟังความเห็นไฮสปีด ส่วนต่อขยาย ระยอง-ตราด
Loading

รฟท. ลุยฟังความเห็นไฮสปีด ส่วนต่อขยาย ระยอง-ตราด

วันที่ : 6 มีนาคม 2563
ไฮสปีดเทรนระยอง-ตราด
          ร.ฟ.ท." ฟังความเห็น ไฮสปีดเทรนระยอง-ตราด ครั้งที่ 2 เร่งสรุป ผลศึกษาภายในปีนี้ ชงรัฐบาลพิจารณาโครงการ

          รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ระบุว่า ร.ฟ.ท.เตรียมจัดประชุมกลุ่มย่อยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อแนวทางที่ได้รับการคัดเลือกและร่างมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ (การประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 2) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยาย จ.ระยอง-จันทบุรี-ตราด

          ทั้งนี้ ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัท ที่ปรึกษาประกอบด้วย บริษัททีม คอนชีตั้ง เอนจิเนียริง แอนต์ แมเนจเมนห์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีแอลที คอนชัลแตนส์ จำกัด บริษัท วิศวกรรมธรณีและฐานราก จำกัด บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด และบริษัทดาวฤกษ์ คอมมูนิคชั่นส์ จำกัด ให้ดำเนินงานจ้าง ที่ปรึกษาศึกษาความเหมาะสมด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม การเงิน และแนวทาง การลงทุนที่เหมาะสม ตลอดจนงานออกแบบ เบื้องต้นโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยาย จ.ระยอง-จันทบุรี-ตราด

          โดยมีระยะเวลาดำเนินงาน 240 วัน และ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวได้เริ่มดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 ซึ่งในการดำเนินงาน ดังกล่าว ต้องมีการดำเนินงานด้วยการมีส่วนร่วม ของประชาชนและการประชาสัมพันธ์ จึงได้ กำหนดให้มีการประชุมเพื่อนำเสนอแนว เส้นทางที่ได้รับการคัดเลือก และร่างมาตรการ ป้องกัน แก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะ สำหรับนำไปประกอบการออกแบบเบื้องต้นของโครงการให้มีความครบถ้วนและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

          นอกจากนี้ได้กำหนดจัดการประชุมในวันที่ 16 มี.ค.นี้ ณ ที่ว่าการ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง  โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะที่ 2 ส่วนต่อขยายระยอง-จันทบุรี-ตราด เป็นโครงสร้างพื้นฐานรองรับอีอีซีรองรับระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก ส่งเสริมการ ท่องเที่ยว เชื่อมนิคมอุตสาหกรรม เชื่อมท่าเรือ และสนามบินภาคตะวันออก

          รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพของการโดยสารทางรถไฟ ลดต้นทุนและระยะเวลา การเดินทาง ปลอดภัยในการเดินทาง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่ง ของประเทศ ลดปัญหามลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อม  และจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งทางรางให้มากขึ้น
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ