เอสซีจี หวังพัฒนา อีอีซี ดันงานก่อสร้างยาว5-7ปี
Loading

เอสซีจี หวังพัฒนา อีอีซี ดันงานก่อสร้างยาว5-7ปี

วันที่ : 5 มีนาคม 2563
ธุรกิจซีเมนต์ปีนี้โตตามเศรษฐกิจ มั่นใจการลงทุน อีอีซี หนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ต่อเนื่อง 5-7 ปี
        
          นายชนะ ภูมี รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจซิเมนต์และคอนสตรัคชั่น โซลูชั่น เอสซีจี เปิดเผยว่า ธุรกิจซีเมนต์ในปี 2563 จะเติบโตไปตามการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้ยังมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่องอีก 5-7 ปี

          ส่วนที่เป็นการก่อสร้างภาคเอกชนประมาณ 50% ขึ้นอยู่กับการบริโภคภายในประเทศ แต่ช่วงนี้จะลำบากบ้าง เพราะมีปัจจัยไม่แน่นอนค่อนข้างเยอะ แต่หาก ถนนหนทางต่างๆ ที่รัฐบาลก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็จะเกิดโครงการก่อสร้างภาคเอกชน เกิดขึ้นตามมาอีกมาก โดยเอสซีจีไม่ได้มองเพียงตลาดวัสดุก่อสร้าง แต่มุ่งเน้นตลาดที่เป็นอุตสาหกรรมก่อสร้างที่จะเข้าไปสนับสนุนอย่างไรให้เติบโตและยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย

          รายงานข่าวระบุว่า เอสซีจีรายงานผลดำเนินงานธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างปี 2562 มีรายได้จากการขาย 184,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อน เนื่องจากการขยายตัวของยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกและจัดจำหน่าย โดยมีกำไร 5,455 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน

          ขณะที่ไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ธุรกิจซีเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีรายได้จากการขาย 45,135 ล้านบาท คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ลดลง 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะยอดขายในตลาดนอกภูมิภาคอาเซียนลดลง โดยมีกำไรสำหรับงวด 1,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

          สำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจะยกระดับวงการก่อสร้างและที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร ด้วยโซลูชั่นสินค้าพร้อมบริการ รวมกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาประยุกต์ใช้ โดยเฉพาะคอนสตรัคชั่น โซลูชั่น ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ช่างและผู้รับเหมาทำงานได้ดี รวดเร็ว และประหยัดต้นทุนมากขึ้นกว่าเดิม เช่น การพัฒนาเทคโนโลยี Building Information Modeling ที่ช่วยวางแผนการใช้งานวัสดุและเทคนิคในการก่อสร้างผ่านโมเดล 3 มิติ จึงลดการเกิดวัสดุก่อสร้างส่วนเกิน