แบงก์เข้มกู้บ้านดัน'สินเชื่อธอส.'พุ่ง
Loading

แบงก์เข้มกู้บ้านดัน'สินเชื่อธอส.'พุ่ง

วันที่ : 25 กุมภาพันธ์ 2563
ธอส. เผยยอดสินเชื่อพุ่ง หลังแบงก์พาณิชย์คุมปล่อยกู้บ้าน พบ ปฏิเสธสินเชื่อลูกค้ามากขึ้น ชี้เดือนม.ค. ยอดสินเชื่อของธอส.ขยับขึ้นมาอยู่ที่ ระดับ 1.2 หมื่นล้าน จากปกติปล่อยกู้อยู่ 7-8 พันล้านบาทต่อเดือน อีกทั้งยังได้ อานิสงส์ภาวะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ จูงใจคนซื้อบ้าน

    ธอส. เผยยอดสินเชื่อพุ่ง หลังแบงก์พาณิชย์คุมปล่อยกู้บ้าน พบ ปฏิเสธสินเชื่อลูกค้ามากขึ้น ชี้เดือนม.ค. ยอดสินเชื่อของธอส.ขยับขึ้นมาอยู่ที่ ระดับ 1.2 หมื่นล้าน จากปกติปล่อยกู้อยู่ 7-8 พันล้านบาทต่อเดือน  อีกทั้งยังได้ อานิสงส์ภาวะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ จูงใจคนซื้อบ้าน

    นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)  เปิดเผยว่า ยอดปล่อยสินเชื่อบ้านในช่วงต้นปีของ ธอส.ขยายตัวสูง สาเหตุมาจากธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าสูงขึ้น  ส่งผลให้ ยอดปล่อยสินเชื่อบ้านในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จากปกติสินเชื่อบ้านในเดือนดังกล่าวจะอยู่ที่ราว 7 -8 พันล้านบาท  ขณะที่ตัวเลขสินเชื่อ ล่าสุดในเดือนก.พ.หรือจนถึงวันที่  14 ก.พ. อยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท

    ทั้งนี้ ธอส.ตั้งเป้าสินเชื่อในปีนี้อยู่ที่ 2.09 แสนล้านบาท ซึ่งจากแนวโน้ม การปล่อยสินเชื่อในช่วงต้นปีของธอส. บวกกับมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ เพื่อให้คนมีบ้าน เช่น โครงการสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำเพื่อคนรายได้น้อย และอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ เชื่อว่า ธอส.จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

    เขากล่าวว่า พันธกิจหลักของ ธอส.คือการทำให้คนสามารถมีบ้านของตนเอง ซึ่งถึงแม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยได้รับ ผลกระทบจากการชะลอตัวของภาค การส่งออก และปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ส่งผลของให้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงก็ตาม แต่ธอส.ยังเชื่อว่าลูกค้าของธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่จะขอกู้ ในระดับ 2 ล้านบาทบวกลบเล็กน้อย  และส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้เป็นเงินเดือนประจำ จะยังไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยตรง

    เขากล่าวอีกว่า ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศอยู่ในระดับต่ำ เอื้ออำนวยให้คนกู้ซื้อบ้านได้มากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า หากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)  จะประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ลงมาอีกเต็มที่จะไม่เกินอีก 1 ครั้ง โดย อัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นนี้ จะอยู่ในระบบ เศรษฐกิจนานพอสมควร ซึ่งเป็นโอกาสดี ของลูกค้าที่กู้กับธนาคาร หากมีกำลังก็ นำเงินมาโป๊ะเพื่อลดเงินต้น ทำให้การ ผ่อนชำระหมดเร็วขึ้น

    สำหรับหนี้เสียของธอส.ในปัจจุบัน อยู่ที่ 4.05% ของสินเชื่อรวม  ซึ่งในปีนี้ ธอส.มีเป้าที่จะลดหนี้เสียให้อยู่ที่ 3.8% ของสินเชื่อรวม ขณะเดียวกัน ธอส. ได้ปรับปรุงกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกมากขึ้น เช่น หากลูกค้าต้องการยื่นขอกู้เดิมต้องมา ยื่นเอกสารขอกู้กับธนาคาร เมื่อธนาคารอนุมัติก็นัดมาเซ็นสัญญาเงินกู้ แต่รูปแบบใหม่นั้น ลูกค้าจะมาที่ธนาคารในวันยื่นขอกู้ เท่านั้น หลังจากนั้น ธอส.จะให้พนักงาน ซึ่งอาจจะ out source วิ่งนำเอกสารไปให้ลูกค้าเซ็นถึงบ้าน

    เขากล่าวว่า ได้สั่งให้พนักงานของ ธอส.เริ่มคิดถึงการปรับปรุงการให้บริการ โดยให้คิดเสมอว่า ถ้าตัวเองเป็นลูกค้า จะต้องการอะไรบ้าง เช่น ในการยื่นขอกู้ มีเอกสารมากไปหรือไม่ ควรจะลดอะไร ลงมาได้บ้าง เป็นต้น