วิรไท ขอ ธ.พาณิชย์ลดดอกเบี้ยตาม กนง. ตั้งทีมเฉพาะกิจดูแลธุรกิจลูกหนี้เอสเอ็มอี
Loading

วิรไท ขอ ธ.พาณิชย์ลดดอกเบี้ยตาม กนง. ตั้งทีมเฉพาะกิจดูแลธุรกิจลูกหนี้เอสเอ็มอี

วันที่ : 7 กุมภาพันธ์ 2563
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลง 0.25% เหลือ 1% เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ว่า มาจากการประเมินความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 3 ด้าน
        นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลง 0.25% เหลือ 1% เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ว่า มาจากการประเมินความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น 3 ด้าน คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา, พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ที่ล่าช้ากว่ากำหนดและไม่แน่นอน รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง ซึ่งหลักการของ ธปท.คือ การประเมินโอกาสของเศรษฐกิจในกรณี ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยเห็นว่า เมื่อมีความไม่แน่นอนสูงและผลกระทบอาจรุนแรงกว่าที่คาดและกระทบในวงกว้างมากขึ้น กนง.จึงต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วมากกว่าที่จะรอการประชุม กนง.รอบถัดไป
        ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธปท.ยืนยันว่า แม้ ธปท.จะเป็นธนาคารกลางธนาคารแรกที่ตัดสินใจลดดอกเบี้ยหลังการระบาดของไวรัสโคโรนา เพราะเห็นว่า การเทคแอคชั่นเร็วจะดีกว่า ทำช่วงที่สถานการณ์ลุกลามเพราะการแก้ไขจะทำได้ยากกว่า แม้การลดดอกเบี้ยจะมีผลต่อเศรษฐกิจไม่มาก เพราะขณะนี้ดอกเบี้ยต่ำมากแล้ว สภาพคล่องส่วนเกินในระบบก็มีสูงมาก แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ต้องร่วมกันแก้ปัญหาให้ภาคธุรกิจ โดยเรื่องสำคัญขณะนี้ คือการประคับประคองสถานการณ์ ไม่อยากให้ผู้ประกอบการเป็นหนี้เสียเพราะกระทบต่อการจ้างงาน 
        นอกจากนี้สิ่งที่คาดหวังหลังจากลดดอกเบี้ยนโยบาย คือต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ มีการลดดอกเบี้ยอ้างอิงตามมา นอกจากนี้ จากการหารือกับสมาคมธนาคารไทยและผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ได้ขอให้สถาบันการเงินตั้งทีมพิเศษขึ้นมาดูแลลูกหนี้ โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ และอื่นๆเพื่อให้การตัดสินใจทำได้เร็วขึ้น “สถาบันการเงินต้องช่วย หลังภาครัฐได้ออกมาตรการหลายอย่างเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ทั้งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ ธปท.ได้มีหนังสือเวียนไปถึงผู้บริหารสถาบันการเงินให้ช่วยดูแลผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และเร่งปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งไม่ได้ให้ดูแลเฉพาะผู้ประกอบการแต่ให้ดูไปถึงลูกจ้างที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย”
        ส่วนค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปีนี้เงินบาทอ่อนค่าลงและเป็นประเทศที่ค่าเงินอ่อนสุดในภูมิภาค แต่คิดว่าค่าเงินบาทยังไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน เพราะยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับความผันผวน แต่หากพบว่ามีการเก็งกำไรค่าเงินที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธปท.พร้อมออกมาตรการเพิ่มเติม