อุตตม ชงแพกเกจอุ้มท่องเที่ยว งัดมาตรการภาษีลดผลกระทบโคโรนา
Loading

อุตตม ชงแพกเกจอุ้มท่องเที่ยว งัดมาตรการภาษีลดผลกระทบโคโรนา

วันที่ : 4 กุมภาพันธ์ 2563
"อุตตม" ชง ครม. ออกมาตรการภาษีช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาวันนี้ เตรียมใช้มาตรการไทยเที่ยวไทย จัดประชุมสัมมนาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
          'อุตตม'ชงแพกเกจอุ้มท่องเที่ยว งัดมาตรการภาษีลดผลกระทบโคโรนา

          "อุตตม" ชง ครม. ออกมาตรการภาษีช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาวันนี้ เตรียมใช้มาตรการไทยเที่ยวไทย จัดประชุมสัมมนาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า นำค่าใช้จ่ายปรับปรุงโรงแรม ลดหย่อนภาษีได้ เผยชิมช้อปใช้เฟส 4 กำลังออกแบบมาตรการเพิ่มเติม ปลื้มเฟส 3 ช่วยเพิ่มใช้จ่ายเฉียด 3 หมื่นล้าน ช่วยทั้งคนค้าขาย การท่องเที่ยว ยันมีการติดตามปัจจัยเสี่ยงใกล้ชิด ไม่มีประมาท พร้อมคลอดมาตรการกระตุ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม ด้าน "ท่องเที่ยว"ประเมินผลกระทบโคโรนาทำไทยเสียรายได้ 1.47-3.25 แสนล้านบาท เล็งของบกลาง 500 ล้านกระตุ้น

          นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันนี้ (4 ก.พ.) ซึ่งเป็นมาตรการที่ได้จากการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเป็นการสนับสนุนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน เช่น ให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรม สถานที่ มาหักลดหย่อนภาษีได้ และมีสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินให้กู้เพื่อปรับปรุงกิจการเพิ่มเติมด้วย โดยรายละเอียด ขอให้รอผ่านการพิจารณาของ ครม.ก่อน จึงจะมีการเปิดเผยต่อไป

          ส่วนประเด็นที่ผู้ประกอบการสายการบินเสนอให้กรมสรรพสามิตลดภาษีนำมันเครื่องบินนั้น เป็นเรื่องเก่าที่เสนอมานานแล้ว แต่ปัจจุบันยังมีปัจจัยใหม่ที่จะขอให้คลังพิจารณาเพิ่มเติมให้ด้วย แม้ในขณะนี้กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ต้องขอให้รอดูก่อนว่าจะต้องนำเข้าสู่ ที่ประชุม ครม.ในวันนี้ด้วยหรือไม่

          สำหรับมาตรการชิมช้อปใช้ระยะที่ 4 ยังไม่ได้กำหนดจะเสนอให้ ครม. พิจารณาแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณา หารูปแบบที่เหมาะสม เพื่อให้มาตรการ ดังกล่าวช่วยเหลือเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา และความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ดังนั้น จากสาเหตุดังกล่าวรัฐบาลจึงยังไม่สามารถวางใจอะไรได้ และยังเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องมีการออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ครม. ได้เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุน โดยการปรับเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักรใหม่ใน ภาคเอกชนไปแล้ว

          "ชิมช้อปใช้เฟส 3 ที่ปิดโครงการไปเมื่อ 31 ม.ค.2563 ได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 โดยมียอดการใช้จ่ายจากผู้ได้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของประชาชน ช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทำให้ทั้งประชาชนและภาคธุรกิจเกิดความมั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการออกมาดูแลเศรษฐกิจ และมาตรการชิมช้อป ใช้ยังช่วยให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลผู้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์อีกราว 12 ล้านรายที่สามารถ นำมาใช้ออกแบบมาตรการใหม่ได้อย่าง ตรงจุด" นายอุตตมกล่าว

          ส่วนกรณีที่สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้ออกบทวิเคราะห์ถึงเศรษฐกิจไทยอาจเผชิญกับภาวะถดถอยจากผลกระทบ ของไวรัสโคโรนา นายอุตตม กล่าวว่า รัฐบาลได้ติดตาม และประเมินสถานการณ์ ต่างๆ มาโดยตลอด ไม่ได้วางใจ ไม่ประมาท ส่วนสำนักข่าวแต่ละแห่งจะประเมินผล กระทบอย่างไรถือเป็นเรื่องของแต่ละองค์กรที่จะดำเนินการ แต่ประเด็นสำคัญ คือ รัฐบาลต้องรับมือให้ทันการณ์ เมื่อถึง ช่วงจังหวะที่คิดว่าควรจะผลักดันมาตรการใดออกมาดูแลเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลก็จะดำเนินการ และที่สำคัญ คือ การขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมถึงภาคเอกชน เช่น ผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน เป็นต้น

          รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า มาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของกระทรวงการคลังที่จะเสนอเข้า ครม. คือ มาตรการไทยเที่ยวไทย ให้เอกชนนำรายจ่ายจากการจัดประชุมสัมมนามาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า รวมถึงการใช้มาตรการเพิ่มลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมและสถานที่เพื่อให้บริการนัก ท่องเที่ยว 1.5 เท่าสำหรับเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต รวมถึงการขยายระยะเวลาในการยื่นแบบและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปี 2562 ออกไปอีก 3 เดือน จากเดิม ที่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.2563 และคาดว่าผลจากการขยายระยะ เวลาการเสียภาษีเงินได้ จะทำให้มีเงินหมุนเวียนลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้ไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท

          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว. ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้ประเมิน ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการระบาดของไวรัสโคโรนาไว้ 4 กรณี มีผลกระทบแตกต่างกันตามระยะเวลาที่จีนสั่งห้ามเดินทาง โดยจะสูญเสียรายได้ตั้งแต่ 1.47-3.25 แสนล้านบาท โดยกระทรวงฯ เตรียมที่จะเสนอของบกลางประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการกระตุ้นท่องเที่ยว พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น แก่นักท่องเที่ยว