ธอส.โอด LTV ทำปล่อยกู้ลำบาก วอนธปท.ปลดล็อกหวั่นวืดเป้า2แสนล้าน
Loading

ธอส.โอด LTV ทำปล่อยกู้ลำบาก วอนธปท.ปลดล็อกหวั่นวืดเป้า2แสนล้าน

วันที่ : 24 พฤษภาคม 2562
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เรียก ธอส.และธนาคารออมสินให้ข้อมูลผลกระทบมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำไป หารือกับ ธปท.ให้ผ่อนผันเงื่อนไขการปล่อยกู้บ้าน ให้กับแบงก์รัฐเฉพาะกิจที่ปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อย และส่วนใหญ่เป็นการปล่อยกู้บ้านหลังแรก
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เรียก ธอส.และธนาคารออมสินให้ข้อมูลผลกระทบมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำไป หารือกับ ธปท.ให้ผ่อนผันเงื่อนไขการปล่อยกู้บ้าน ให้กับแบงก์รัฐเฉพาะกิจที่ปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้น้อย และส่วนใหญ่เป็นการปล่อยกู้บ้านหลังแรก

          "ธอส.ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ซึ่งการปล่อยกู้ไตรมาสแรกปี 2562 โดยเฉพาะ เดือนมีนาคม อนุมัติกู้ซื้อบ้านถึง 19,000 ล้านบาท เพื่อหนีมาตรการ LTV ซึ่งมีผลบังคับ เดือนเมษายน สำหรับการปล่อยกู้ครึ่งเดือนแรก ของพฤษภาคม ยอดปล่อยกู้ลดลง 30-35% หากเป็นเช่นนี้จะทำให้ปีนี้ปล่อยกู้ต่ำกว่า เป้าหมาย 60,000 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 203,000 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับธปท.จะผ่อนผันเกณฑ์ได้หรือไม่"

          "ยอมรับว่า LTV เป็นมาตรการที่ดีถูกต้องตามทฤษฎี เหมาะสำหรับการคุมการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ที่เป็นผู้มีรายได้ดี การกำหนดให้ปล่อยกู้ได้ไม่เกิน 95% ของราคาประเมินไม่กระทบกับผู้มีรายได้ดี แต่ไม่เหมาะกับการปล่อยกู้บ้านของ ธอส.ที่เป็นลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อยและเป็นผู้กู้ซื้อบ้านหลังแรก เช่น ขอกู้ 1 ล้านบาท ต้องหาเงินมาดาวน์ 50,000 บาท สำหรับผู้มีรายได้น้อยเป็นเรื่องลำบาก ทำให้การปล่อยกู้บ้านหลังแรกได้รับผลกระทบ" นายฉัตรชัย กล่าว

          สำหรับผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 44,041 ล้านบาท 35,971 บัญชี เป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท 21,319 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,128,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.88% สินทรัพย์รวม 1,167,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.95% เงินฝากรวม 945,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.58% หนี้ที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 49,295 ล้านบาท คิดเป็น 4.37% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.03% โดยมีอัตราส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 166.81% เพิ่มขึ้น 9.60% มีรายได้ดอกเบี้ย 12,971 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 5,432 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 2,866 ล้านบาท และล่าสุดวันที่ 30 เมษายน 2562 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้แล้ว 53,348 ล้านบาท คาดว่าเมื่อถึงสิ้นไตรมาส 2 ของปี 2562 การปล่อยสินเชื่อใหม่จะเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับเป้าหมาย 6 เดือนที่ตั้งไว้ 100,000 ล้านบาท จากเป้าหมายปี 2562 ที่ 203,000 ล้านบาท

          ส่วนแผนงานในอนาคต ธนาคารจะจัดทำสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ Reverse Mortgage วงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ของตนเองและปลอดภาระหนี้ สามารถนำมา จำนองเพื่อรับเงินเป็นรายเดือน นำร่องในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้กู้สำหรับผู้ที่มี อายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 80 ปี วงเงินให้กู้ สูงสุดไม่เกิน 50% ของราคาประเมินและสูงสุด ไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปีตลอดอายุสัญญากู้ ระยะเวลาขอรับเงินได้นานสูงสุด 25 ปี หรือจนถึงผู้กู้อายุ 85 ปี ธนาคารจะจ่ายเงินให้ผู้กู้เป็นรายเดือน อาทิวงเงินกู้ 2 ล้านบาท หากผู้กู้อายุ 65 ปี ระยะ เวลาการกู้ 20 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 8,300 บาท
 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ