จับตารัฐใช้มาตรการการคลังช่วยอสังหาริมทรัพย์ คาด สศค. แผน 1-2 วันนี้ ลุ้นหวนใช้นโยบายฟรีค่าโอน-ค่าธรรมเนียม SPALI ANAN LPN และ ORI น่าสนใจ ด้านผู้บริหาร AP เชื่อหากใช้จริงยอดขายมีสิทธิ์พุ่ง

          แหล่งข่าววงในอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คาดภายใน 1-2 วันนี้ ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศระยะสั้น ซึ่งจะออกมาช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยในระหว่างรอยต่อรัฐบาลชุดใหม่ ฟื้นฟูความเชื่อมั่นการลงทุนและการบริโภคในประเทศ โดยจะเน้นไปที่มาตรการที่มีประสิทธิภาพดังที่เคยใช้ในอดีต และใช้งบประมาณไม่มาก เช่น การกระตุ้นในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในสัปดาห์หน้า

          ลุ้นมาตรการเอื้ออสังหา

          นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงาน วิจัย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางฝ่ายคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับอานิสงส์ดังกล่าว จึงแนะนำ "ซื้อ" SPALI ให้ราคาแนวรับที่ 20.40 บาท และแนวต้านที่ 22.00-22.50 บาท และ ANAN ให้ราคาแนวรับที่ 3.76 บาท และแนวต้านที่ 4.10/4.40 บาท นอกจากนี้ ยังมองว่า LPN และ ORI ก็ความน่าสนใจเช่นกัน เป็นต้น

          "หากทาง สศค. ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระหว่างรอยต่อรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะนำมาตรการที่คล้ายคลึงกับชุดเดิมที่เคยออกมาแล้วในอดีตกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง คือมาตรการกระตุ้นฟรีค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง ที่ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพื่อให้ทาง ครม. อนุมัติในสัปดาห์หน้าเป็นลำดับถัดไปนั้น มองว่าจะส่งผลดีให้กับทั้งลูกค้าที่ต้องการซื้อบ้านและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ เรามองว่า SPALI ANAN ORI และ LPN มีความน่าสนใจและโดดเด่นที่สุดในกลุ่ม" นายวิกิจ กล่าว

          ลุ้นฟรีธรรมเนียม-ค่าโอน

          นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการ ผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวเพิ่มเติมว่า ในมุมมองผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เอกชนมองว่า ไม่ว่าภาครัฐจะออกมาตรการอะไรเพื่อมากระตุ้น เศรษฐกิจในประเทศนั้นย่อมเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว เพียงแค่จะส่งอานิสงส์ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมกับการตัดสินใจลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เท่านั้น

          ทั้งนี้ หากว่าผลการออกมาว่าจะมีมาตรการใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์จริง โดยเฉพาะเอื้อประโยชน์เรื่องฟรีค่าธรรมเนียมและฟรีค่าโอน จะผลกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ประกอบการเอกชนในตลาดได้มากขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ บริษัทค่อนข้างมีความพร้อมรองรับความต้องการที่พักอาศัย โดย ณ 31 มีนาคม 2562 บริษัทมีกรรมสิทธิ์รอโอนและรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 58,960 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 11,140 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปี 2562 นี้ และคอนโดมิเนียมรวมโครงการร่วมทุน มูลค่า 47,820 ล้านบาท

          ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2562 มองว่าความต้องการที่พักอาศัยยังคงมีอยู่จำนวนมาก สะท้อนการเติบโตของยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 2/2562 บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อีกกว่า 13 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 19,720 ล้านบาท เป็นแบ่งโครงการทาวน์โฮม 9 โครงการ, โครงการบ้านเดี่ยว 3 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ เป็นต้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น