ร.ฟ.ท.มั่นใจหลายราย จ่อเข้าซื้อซองประมูล

          "เซ็นทรัล" เข้าซื้อซอง พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลาง บางซื่อ "แปลงเอ" เจ้าแรก ด้าน ร.ฟ.ท. มั่นใจ 30 ก.ค.นี้ จะมีเอกชนร่วมกลุ่ม ชิงเค้กคึกคัก ย้ำคุณสมบัติต้องมี ประสบการณ์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1.5 แสนตารางเมตร

          นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่ม ธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการ ในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ร.ฟ.ท. ได้ประกาศเชิญชวนผู้ยื่นข้อเสนอร่วม ลงทุนโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ แปลง A ที่มีมูลค่าการพัฒนา 11,500 ล้านบาท เมื่อ วันที่ 9 เม.ย.2562 เป็นวันแรก พบว่า มีเอกชนสนใจเข้าซื้อซองเอกสาร จำนวน 1 ราย คือ กลุ่มเซ็นทรัล ส่วนการขายซองเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ยังไม่มีเอกชนเข้ามาซื้อซองเอกสารเพิ่มเติม โดย ร.ฟ.ท.มีกำหนดเปิดขายซองเอกสารโครงการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 7 พ.ค.นี้

          "โครงการนี้มีเวลาขายซองจำนวน 1 เดือน มั่นใจว่าจะมีเอกชนตอบรับ โครงการนี้เยอะ เพราะเป็นพื้นที่ที่มี ศักยภาพ อยู่ในทำเลที่ตั้งดี ช่วงที่ผ่านมา ก็มีนักลงทุนไทยและต่างชาติมาร่วม รับฟังข้อมูลโครงการค่อนข้างมาก ตอนนี้ก็ยังคงมั่นใจว่าโครงการจะได้รับ ความสนใจจากเอกชนอย่างต่อเนื่อง และน่าจะมีเอกชนร่วมกลุ่มเข้ามาร่วม ประมูลเยอะ เพราะโครงการก็มีมูลค่าสูง และรายละเอียดโครงการที่จะพัฒนา แบบมิกซ์ยูสก็น่าจะต้องมีเอกชนหลายรายช่วยกัน" นายวรวุฒิ กล่าว สำหรับข้อกำหนดด้านคุณสมบัติ เอกชนที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการ จะต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ในการ เป็นผู้พัฒนา โครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทธุรกิจร้านค้า (รีเทล) โรงแรม หรือสำนักงาน อย่างน้อยสองในสามประเภทกิจการเหล่านี้ อาจเป็นโครงการเดียวกัน หรือหลายโครงการรวมกันก็ได้ แต่จะ ต้องมีขนาดพื้นที่อาคารรวมกับไม่น้อยกว่า 1.5 แสนตารางเมตร รวมทั้งแต่ละโครงการต้องมีขนาด ไม่น้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร การกำหนด สเปคเช่นนี้ เพราะ ร.ฟ.ท.ต้องการ ให้ผู้ที่มีประสบการณ์พัฒนาโครงการโดยตรงเข้ามาร่วมประมูล ไม่ต้องการให้มีกรณีนายหน้าประมูลโครงการ เพื่อไปจัดสรรพื้นที่ให้กับเอกชนรายย่อย และไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ได้

          รายงานข่าวจาก ร.ฟ.ท.ระบุว่า การสรรหาเอกชนร่วมลงทุนโครงการ พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ บริเวณสถานี กลางบางซื่อ แปลง A ร.ฟ.ท.ดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โดยจะ ให้สิทธิการพัฒนาและใช้ประโยชน์ ที่ดินบริเวณแปลง A ขนาดที่ดิน ประมาณ 32 ไร่ ระยะเวลา 34 ปี รวม ระยะเวลาก่อสร้าง 4 ปีด้วย เมื่อครบกำหนด สัญญาร่วมทุนสิ้นสุดลง เอกชนจะต้อง ส่งมอบอาคารที่มีขนาดพื้นที่อาคารรวม ไม่น้อยกว่า 3.17 แสนตารางเมตร มี มูลค่าการก่อสร้างอาคาร ไม่น้อยกว่า 11,500 ล้านบาท

          ทั้งนี้ หลังเปิดขายซองระหว่าง วันที่9 เม.ย.-7 พ.ค.2562 ร.ฟ.ท.มี จัดประชุมชี้แจงข้อมูล 2 ครั้ง คือ วันที่ 8 พ.ค.2562 และ 25 มิ.ย.2562 ก่อนจะพาเอกชนเยี่ยมชมสถานที่ โครงการในวันที่ 9 พ.ค.2562 พร้อม เปิดให้เอกชนส่งคำถามเกี่ยวกับเอกสาร คัดเลือกเอกชน ในวันที่ 6 พ.ค.-5 ก.ค.2562 และมีกำหนดเปิดรับซองข้อเสนอ ในวันที่ 30 ก.ค.2562

          สำหรับพื้นที่แปลง A ถือเป็น ส่วนหนึ่งของแผนแม่บทการพัฒนา พื้นที่ศูนย์คมนาคมพหลโยธิน โดย จัดเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อม และต้อง เริ่มต้นพัฒนาก่อน เนื่องจากอยู่ติด กับสถานีกลางบางซื่อ ห่างจากตัวสถานีประมาณ 100 เมตร และมีขอบเขตของ พื้นที่อยู่ในรัศมีระยะเดินเท้า ประมาณ 500 เมตร จากสถานีกลางบางซื่อ ทำให้ พื้นที่แปลง A เป็นพื้นที่สำคัญที่ต้องเร่งพัฒนาเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน เนื่องจากสถานีกลางบางซื่อปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จ เปิดให้บริการในเดือน ม.ค.2564

          ในส่วนของการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ การคมนาคม เพราะจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมระหว่างฝั่งตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพ และเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค จากโครงข่ายคมนาคมทางยกระดับและทางราง เบื้องต้น ร.ฟ.ท.มีการประเมินว่า เมื่อเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ และศูนย์คมนาคมพหลโยธินในปี 2564 จะมีประชาชนใช้บริการกว่า 2 แสนคน และใน 10 ปีข้างหน้าในปี 2575 จะมีคนใช้บริการกว่า 4 แสนคน