เอกชนภูเก็ตหนุนรถไฟฟ้ารางเบา หวังแจ้งเกิดเมืองใหม่ 2 ข้างทาง
Loading

เอกชนภูเก็ตหนุนรถไฟฟ้ารางเบา หวังแจ้งเกิดเมืองใหม่ 2 ข้างทาง

วันที่ : 2 มีนาคม 2562
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน จังหวัดภูเก็ตนั้น ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ฟันธงออกมาให้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Tran sit หรือ Tramway) ซึ่งมีการประเมินงบลงทุนไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท
          เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน จังหวัดภูเก็ตนั้น ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ฟันธงออกมาให้เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail Tran sit หรือ Tramway) ซึ่งมีการประเมินงบลงทุนไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท

          ปัจจุบันโครงการได้ส่งไม้ต่อให้กับทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ ไทย (รฟม.) แล้ว โดยทาง รฟม. คาดหวังว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติภายในกลางปี 2562 นี้ และวางเป้าการเปิดประมูลโครงการฯ ไว้ในช่วงไตรมาส 3 โดยมีความเชื่อว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ จะสนใจร่วมทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในปี 2566

          นายก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เค.ดับบลิว.พลาซ่า จำกัด หนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า โครง การระบบรถไฟฟ้ารางเบาในจ.ภูเก็ต มูลค่าลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ รฟม. เป็นผู้ดำเนินการศึกษารูปแบบ public private partnership (PPP) และคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนนั้น ในฐานะเอกชนท้องถิ่นมองว่าโครงการดังกล่าว เป็นสิ่งจำเป็นที่ท้องถิ่นต้องการเร่งด่วน เพื่อรองรับด้านการท่องเที่ยวในการขนส่งนักท่องเที่ยวเข้ามายังตัวเมือง และการขยายตัวด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ยังถือเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวในการเข้าเมืองจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก

          "อยากให้ภาครัฐมองว่าการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญ จะต้องเร่งพัฒนา การที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเบา ถือว่าจะตอบโจทย์ได้บางส่วน หรือจากผลการศึกษาคือเส้นทางที่ผ่านตะวันออก ถือว่ายังไม่ตอบโจทย์ลักษณะเมืองและพื้นที่ 100% แต่จะเห็นการพัฒนาเกิดขึ้น เช่น จะเกิดระบบฟีดเดอร์ที่จะมาต่อยอดการเข้าถึง หรือเกิดการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี หรือ TOD ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดเมืองใหม่ 2 ข้างทาง เกิดการพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์"

          จากความคิดเห็นส่วนตัวภาครัฐสามารถดำเนินการเป็นระยะได้เพื่อเป็นการนำร่อง เมื่อโครงการมีความชัดเจนและเกิดขึ้นได้จริงก่อน จากนั้นค่อยเดินหน้าวางแผนเส้นทางต่อไปให้ครอบคลุมพื้นที่ หรือระยะที่ 2 ซึ่งจะตอบโจทย์เรื่องของพื้นที่การเข้าถึงเป้าหมาย ซึ่งจะถือว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจในมุมมองของเอกชน นอกจากนี้ การพัฒนาเมืองหรือการปรับผังเมืองเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรจะต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เพื่อรองรับการขยายตัว อาทิ ด้านสาธารณูปโภค ระบบโลจิสติกส์ ต้องได้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดำเนินการ

          อย่างไรก็ตาม ระบบรถไฟฟ้ารางเบาใน จ.ภูเก็ต ขณะนี้มีความคืบหน้าในการทดสอบความสนใจของนักลงทุนไปเรียบร้อยแล้ว โดยโครงการดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง ระยะทางราว 42 กิโลเมตร ซึ่งจะเริ่มพัฒนาก่อนจากนั้นจึงค่อยพัฒนาระยะที่ 2 ช่วงท่านุ่น-เมืองใหม่ ระยะทางราว 17 กิโลเมตรต่อไป

          ขณะที่ประเด็นด้านการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อโครงการลงทุน สิ่งสำคัญที่นักลงทุนมองคือความเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดหรือบุคคลใดขึ้นมาทำหน้าที่ผู้บริหารประเทศ จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนเป็นหลัก เชื่อว่านักลงทุนมีความพร้อมเสมอที่จะร่วมลงทุน หากมีความเชื่อมั่น การลงทุนจะตามมาในแต่ละพื้นที่
 
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ