“SMART” ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ผนังคอนกรีตมวลเบาสำเร็จรูป” และ “บล็อกตกแต่ง” รองรับความต้องการกลุ่มลูกค้าแบบครบวงจร เร่งปั๊มยอดขาย ดันมาร์จิ้นสูง ส่วนงบ Q1 ขาดทุนเพิ่มขึ้น 52% แตะ 13.40 บาท

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ SMART เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นยอดขายและเพิ่มอัตราส่วนกำไรขั้นต้น โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ผนังคอนกรีตมวลเบาสำเร็จรูป และบล็อกมวลเบาสำหรับการตกแต่ง อาทิ บล็อกมิติ บล็อกช่องลม แบมบูบล็อก

ทั้งนี้การออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะช่วยตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ในงานก่อสร้าง สามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลายและสวยงาม สอดรับกับเทรนด์การตกแต่งในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น อาทิ กลุ่มบริษัทออกแบบ สถาปนิก ผู้รับเหมาก่อสร้าง เจ้าของบ้าน จากเดิมที่มุ่งเน้นงานผนังแบบทั่วไป และลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงการภาครัฐ

นอกจากนี้ บริษัทคาดสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 2560 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยการที่บริษัทได้ขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น โดยปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากดีลเลอร์รายใหม่ในสปป.ลาว ซึ่งมีการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ ขณะที่ประเทศกัมพูชาบริษัทได้เข้าไปจำหน่ายผลิตภัณฑ์แล้ว โดยมีออเดอร์คำสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/60 บริษัทขาดทุนสุทธิจำนวน 13.40 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะมีรายได้จำนวน 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 มีผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

อีกทั้งการปรับตัวของราคาวัตถุดิบ ทำให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิของบริษัทลดลง ถึงแม้บริษัทจะบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รายได้รวมของบริษัทมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น

 “บริษัทได้เริ่มนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกทดลองตลาด แนะนำกับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มแล้ว โดยได้จัดกิจกรรมการตลาดออกบูธแนะนำสินค้าในงานสถาปนิก 60 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีและได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมาก โดยในปีนี้บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างแบรนด์และแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง” นายรังสี กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น