DRTตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นลั่นCLMVดันยอดตามเป้า
Loading

DRTตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นลั่นCLMVดันยอดตามเป้า

วันที่ : 16 พฤษภาคม 2560
DRTตลาดวัสดุก่อสร้างฟื้นลั่นCLMVดันยอดตามเป้า

DRT โชว์ไตรมาส 1/2560 เติบโต ต่อเนื่อง ทำกำไรสุทธิได้ 135.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.66% เมื่อเปรียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 106.19 ล้านบาท จากปัจจัยกำลังซื้อของลูกค้าที่ฟื้นตัว ด้าน ผู้บริหารมองไตรมาส 2 สัญญาณดีต่อเนื่องทั้งจากตลาดในประเทศและส่งออกไปกลุ่ม CLMV มั่นใจผลงานครึ่งปีแรกทำได้ตามเป้าที่จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 5%

นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ "ตราเพชร" เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2560 (ม.ค.-มี.ค.60) ว่า บริษัททำกำไรสุทธิ 135.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.83% เมื่อเปรียบกับช่วงเดียวของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 129.31 ล้านบาท (รวมกำไรพิเศษ จากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน) หรือหากเปรียบกับกำไรสุทธิจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 106.19 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรพิเศษจากการขายที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน 23.12 ล้านบาท) จะเติบโตถึง 27.66% และเติบโต 95.87% หากเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2559

ทั้งนี้ กำไรสุทธิของ DRT ในไตรมาส แรกของปีนี้ เติบโตได้อย่างโดดเด่นมาจากความสำเร็จในการบริหารจัดการด้านช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ จึงสามารถผลักดันยอดขายเติบโตได้ดี ทุกช่องทาง โดยมีกลุ่มห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ กลุ่มลูกค้าโครงการและ กลุ่มร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายย่อยในต่าง จังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดี เนื่องจาก คู่ค้ามีการลงทุนโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และกำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างจังหวัดที่ดีขึ้นจากราคาพืชผลทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ที่ยังมีอัตราการขยายตัวที่ดีเช่นกัน

ส่วนภาพรวมรายได้ในไตรมาส 1/2560 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 1,160.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 25.16% หากเทียบกับไตรมาส 4/2559 ซึ่งมาจากความสำเร็จในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มและการบริหารจัดการด้าน Product Mix รวมถึงการดำเนินกิจกรรมการตลาดที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้สัดส่วนยอดขายสินค้าผ่านกลุ่มห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่เพิ่มเป็น 14% ส่วนกลุ่มลูกค้าโครงการอยู่ที่ 11% และตลาดส่งออกอยู่ที่ 18% ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายที่มาจากร้านค้าปลีกรายย่อยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

"เราพอใจผลงานในไตรมาสแรกของปีนี้ ที่สามารถผลักดันการเติบโตได้ดีทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ โดยมาจากการบริหารจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพ การดำเนินกิจกรรมการตลาดที่ช่วยกระตุ้นยอดขายและสินค้าที่มีความหลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์ กระเบื้องคอนกรีตและกระเบื้องจตุลอนที่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายทั้งตลาดในประเทศและส่งออก ทำให้ภาพรวมอัตราการใช้เครื่องจักรเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเป็น 90% ของกำลังการผลิตทั้งหมด" นายสาธิตกล่าว

สำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2/2560 นั้น เชื่อว่ายังคงรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากตลาดวัสดุก่อสร้างในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากกำลังซื้อของผู้บริโภคต่างจังหวัดดีขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ได้ลงทุนขยายสาขาใหม่และกลุ่มลูกค้าโครงการได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมยอดขายสินค้าในไตรมาส 2 และการเติบโตในครึ่งปีแรกที่คาดว่าจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 5% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น