ธนาคารกรุงเทพดึง 2 แบงก์ใหญ่ ไทยพาณิชย์-กรุงไทย ร่วมปล่อยกู้รถไฟฟ้า 2 สาย เกือบแสนล้าน คาดกระตุ้นลงทุนเอกชนได้

นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือน ต.ค.นี้ จะ มีพิธีลงนามในข้อตกลงการปล่อยสินเชื่อร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงไทย เพื่อสนับสนุนกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ ทำโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง มูลค่า ทั้งสองโครงการรวมกัน 1 แสนล้านบาท หลังจากธนาคารกรุงเทพได้รับการ แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดหาเงินกู้ รวมทั้งเป็นผู้นำในการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าทั้งสองสายเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) โดยรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ซึ่งทางกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ได้ลงนามกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

"วงเงินสินเชื่อจะเริ่มทยอยเบิกใช้ในปี 2561 ช่วยให้สินเชื่อของธนาคารกรุงเทพเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีหน้า ส่วนปีนี้คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 4-5% และช่วยผลักดันให้ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนในปี 2561 ซึ่งเชื่อว่าการลงทุนจะเริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดหลังจากมีการลงทุนภาครัฐ" นายเดชา กล่าว

ด้าน นายเอก สิทธิเวคิน รอง ผู้ว่าการกลุ่มอำนวยการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) รฟท. ได้มีมติเห็นชอบแผนงานและหลักการเพื่อให้ รฟท. โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กิโลเมตร วงเงิน 93,950 ล้านบาท และเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ ก่อนจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป

แหล่งข่าวจาก รฟท. เปิดเผยว่า หาก รฟท.จะเป็นผู้บริหารการเดินรถเองจะต้องควักเงินลงทุน 32,399 ล้านบาท ตามมติ ครม.ที่กำหนดให้รัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนงานโยธา วงเงิน 61,551 ล้านบาท และให้ผู้บริหารการเดินรถลงทุนอีกราว 32,399 ล้านบาท  ดังนั้นในการรายงานแผนต่อที่ประชุม คนร.ในครั้งนี้ รฟท.จะเสนอรายละเอียดมัดใจคณะกรรมการในที่ประชุม คนร. โดยเน้นไปที่ข้อได้เปรียบทางด้านต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าเอกชนที่มุ่งด้านเชิงพาณิชย์