นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเชียงใหม่ (LRT) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่และออก พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพื่อเวนคืนที่ดิน และดำเนินการศึกษารูปแบบการลงทุน

โดยสายแรกจะเป็นสายสีแดง เส้นทางศูนย์ราชการฯ-สนามบิน-แม่เหียะ วงเงินประมาณ 24,000 ล้านบาท ส่วนการก่อสร้างโครงการเป็นระดับใต้ดิน 70% และ ระดับบนดิน 30% โดยจะยึดตามแผนแม่บท ที่กำหนดไว้ รูปแบบการลงทุนโครงการเป็นลักษณะเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) เนื่องจากต้องการให้ส่วนท้องถิ่นกับเอกชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านท้องถิ่นอาจจะจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาเดินรถ หรือร่วมกับเอกชนที่มีเทคโนโลยีด้านการเดินรถเข้ามาบริหารจัดการเดินรถ รวมถึงจะต้องเอกชนต่างชาติเข้ามาร่วมในส่วนของการลงทุนสร้างเพื่อเรียนรู้ระบบ การซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) และอาศัย ประสบการณ์จากเอกชนต่างชาติด้วย โดยปัจจุบันมีเอกชนจากสเปน ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ให้ความสนใจ

สำหรับโครงการระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่นั้น ทางสนข. ได้มีการเสนอให้ดำเนินการพร้อมกันทั้ง 3 สาย รวมระยะทาง 35 กิโลเมตร วงเงินลงทุนกว่า 100,000 ล้านบาท ได้แก่ 1.สายสีแดง เส้นทางศูนย์ราชการฯ-สนามบิน-แม่เหียะ 2.สายสีน้ำเงิน เส้นทางสวนสัตว์เชียงใหม่ท่าแพ-ดอนจั่น และ 3.สายสีเขียว เส้นทางแม่โจ้-กาดหลวง-สนามบิน

ทั้งนี้ ได้มีการเร่งรัดให้ทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ดำเนินการโครงการเพื่อเริ่มต้น การก่อสร้างภายในปี 2562 หรือต้นปี 2563 อย่างช้าใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี และ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2567 อย่างไรก็ตาม หากโครงการดังกล่าวดำเนินการแล้วเสร็จจะมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยรอบสถานี (TOD) คล้ายการการพัฒนา สถานีกลางบางซื่อ

"เชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก โดยได้ดำเนินการร่วมกับ กรมศิลปากร เนื่องจากแนวเส้นทางของโครงการดังกล่าว บริเวณใจกลางเมืองผ่านสนามกีฬาสมโภช 700 ปี และระหว่างการก่อสร้างขุดเจาะใต้ดินแล้วนั้น อาจพบวัตถุโบราณได้จึงมีแผนว่าจะก่อสร้าง เป็นสถานีพิพิธภัณฑ์ เพื่อส่งเสริม การท่องเที่ยวไปอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้การนำ ระบบขนส่งสาธารณะพัฒนาเมืองภูมิภาคว่า จะต้องให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเป็นเจ้าของ หรือมีส่วนร่วมของโครงการนั้น ฉะนั้นทาง สนข. จึงเดินหน้าสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน ในพื้นที่" นายชัยวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้ สนข.เตรียมเสนอโครงการศึกษาออกแบบรายละเอียดระบบขนส่งสาธารณะและผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) จังหวัดขอนแก่น และโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดพิษณุโลก และจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบ ภายในเดือนกันยายน 2561 ต่อจากนั้นจะมอบให้ท้องถิ่นดำเนินการต่อไปโดยจะต้องดำเนินการก่อสร้างตามกฎหมายท้องถิ่น ที่เกี่ยวข้อง เช่น ขออนุญาตกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ส่วนของโครงการรถไฟฟ้าภูมิภาคที่ คจร. เห็นชอบแล้ว ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา