ชงสร้างรถไฟรางเบาภูเก็ต3.5หมื่นล้าน
Loading

ชงสร้างรถไฟรางเบาภูเก็ต3.5หมื่นล้าน

วันที่ : 13 พฤศจิกายน 2562
ชงบอร์ด รฟม.ไฟเขียวสร้างรถไฟฟ้ารางเบาระดับพื้นดิน หรือแทรม จ.ภูเก็ต 3.5 หมื่นล้านบาท คาดเปิดวิ่งปี 2568 พร้อมอนุมัติมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ผ่านตั๋วร่วมแบบเหมา 15-50 เที่ยว ถูกสุดเหลือ 47 บาท จาก 70 บาท ส่วนรถไฟฟ้าสีม่วงช่วงเสาร์-อาทิตย์ และนอกเวลาเร่งด่วนเก็บ 20 บาทตลอดสาย

                รฟม.คาดเปิดวิ่งปี2568-พร้อมหั่นราคาตั๋วสายสีม่วง
            ชงบอร์ด รฟม.ไฟเขียวสร้างรถไฟฟ้ารางเบาระดับพื้นดิน หรือแทรม จ.ภูเก็ต 3.5 หมื่นล้านบาท คาดเปิดวิ่งปี 2568 พร้อมอนุมัติมาตรการลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ผ่านตั๋วร่วมแบบเหมา 15-50 เที่ยว ถูกสุดเหลือ 47 บาท จาก 70 บาท ส่วนรถไฟฟ้าสีม่วงช่วงเสาร์-อาทิตย์ และนอกเวลาเร่งด่วนเก็บ 20 บาทตลอดสาย
            นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า วันที่ 19 พ.ย.นี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ที่มีนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นประธานคนใหม่ จะนัดประชุมบอร์ดชุดใหม่เป็นครั้งแรก
            รฟม.จะเสนอให้บอร์ดพิจารณาวาระสำคัญที่ตกค้างมาราว 2 เดือน เช่น รายงานวิเคราะห์การร่วมทุน (PPP) โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาระดับพื้นดิน (Tram) จังหวัดภูเก็ต ซึ่ง รฟม.ปรับแบบการก่อสร้างให้สอดคล้องกับการจราจรทางถนนใน 3 จุด ส่งผลให้วงเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 3,000 ล้านบาท รวมเป็น 3.5 หมื่นล้านบาท
            อย่างไรก็ตาม รฟม.ยังคงกำหนดอัตราค่าโดยสารอยู่ในระดับเดิม ทั้งนี้ หากบอร์ดเห็นชอบจะเสนอให้กระทรวงคมนาคม, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), คณะกรรมการนโยบายการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
พร้อมกันนี้จะเสนอรายงาน PPP การเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ด้วย หากบอร์ดเห็นชอบจะเสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคม, สคร., บอร์ด PPP และ ครม.พิจารณาต่อไป โดยจะเปิดประมูลหาผู้เดินรถคู่ขนานไปกับงานโยธารถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ส่วนมูลค่า PPP เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ใต้) ยังเปิดเผยไม่ได้ต้องรอ            บอร์ดเห็นชอบก่อน
            นอกจากนี้จะนำเสนอมาตรการลดค่าครองชีพให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติด้วย ซึ่งประกอบด้วย มาตรการที่ 1 เปิดจำหน่ายตั๋วโดยสารร่วมระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง โดยตั๋วประเภทนี้จะคิดอัตราค่าโดยสารต่อเที่ยวถูกลง จากปกติการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายจะเก็บค่าโดยสารสูงสุดในอัตรา 70 บาทต่อเที่ยว
            รายละเอียดประกอบด้วย ตั๋วโดยสารร่วมจำนวน 15 เที่ยว ราคา 780 บาท เฉลี่ย 52 บาทต่อเที่ยว, ตั๋วโดยสารร่วมจำนวน 25 เที่ยว ราคา 1,250 บาท เฉลี่ย 50 บาทต่อเที่ยว, ตั๋วโดยสารร่วมจำนวน 40 เที่ยว ราคา 1,920 บาท เฉลี่ย 48 บาทต่อเที่ยว และตั๋วโดยสารร่วมจำนวน 50 เที่ยว ราคา 2,350 บาท เฉลี่ย 47 บาทต่อเที่ยว
            มาตรการที่ 2 ลดอัตราค่าโดยสารในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน (Off Peak) ระหว่าง 09.00-15.30 น. และช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งปัจจุบันเก็บอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 14-42 บาทต่อเที่ยว โดยมีรายละเอียดดังนี้ เดินทางเข้า-ออกระบบในสถานีแรก ภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เก็บค่าโดยสาร 14 บาทเท่าเดิม สถานีที่ 2 เก็บค่าโดยสาร 17 บาทเท่าเดิม และสถานีที่ 3 เป็นต้นไป เก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย
 

ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ