QH ลุยโค้งส่งท้าย ไตรมาส 4/2562 จ่อเปิด 3 โครงการมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท เชื่อยอดขายครึ่งปีหลัง 2562 เติบโตขึ้น จากการอัดแคมเปญกระตุ้นต่อเนื่อง พร้อมเดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ ชี้ธุรกิจเงินลงทุนผลตอบแทนดี ฟากโบรกมองส่วนแบ่งบริษัทร่วมลงทุนแข็งแกร่ง ยิลด์แรง 6.5-7% เคาะราคาเหมาะสมที่ 3 บาท

          นายประวิทย์ โชติวัฒนาพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังมีการชะลอตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งหากภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะปรับตัวดีขึ้นด้วย แต่ทิศทางดอกเบี้ยที่ปรับตัวลดลงก็สามารถช่วยในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทเชื่อว่าครึ่งปีหลัง 2562 ยอดขายจะดีขึ้น เพราะช่วงไตรมาส 3/2562 ที่ผ่านมายอดขายทยอยปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งช่วงไตรมาส 4/2562 บริษัทมีการเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการ มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทเปิดโครงการไปแล้วกว่า 3 โครงการ แต่ในปีนี้อาจจะมีเลื่อนการเปิดโครงการไปจำนวน 4 โครงการ เนื่องจากติดปัญหาเทคนิคการก่อสร้าง จึงเลื่อนไปเปิดในช่วงไตรมาส 1/2563

          จ่อเปิด 3 โครงการ Q4

          "ภาพรวมสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และคาดว่าไตรมาส 4 ก็ดีขึ้น และบริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก ทำให้คาดว่ายอดขายครึ่งปีหลังจะดีขึ้น แต่ตลาดโดยรวมอาจจะต้องติดตามเรื่องของการขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วย เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อ ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/2562 จะประชุมบอร์ดในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้" นายประวิทย์ กล่าว

          สำหรับภาพรวมผลประกอบการรายได้ปี 2562 อาจจะต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อยที่ 18,117 ล้านบาท ส่วนยอดขายคาดว่าจะทำได้ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อยที่ทำได้ 13,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดโครงการไปบางส่วน แต่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทนั้นมีการลงทุนธุรกิจโรงแรม และการรับจ้างบริหารโรงแรม, อาคารสำนักงานให้เช่า อีกทั้งยังถือหุ้นใน HMPRO, LHFG, กองทุนรวมอสังหา QHPF, และกองทุนรวมอสังหา QHHR เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยปัจจุบันสัดส่วนกำไรที่มาจากธุรกิจอื่นจะอยู่ที่ประมาณ 60%

          แจกยิลด์แรง 6.5-7%

          อย่างไรก็ดีบริษัทก็มีการเดินทางไปให้ข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์)ต่างประเทศต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนมีความสนใจธุรกิจของบริษัทต่อเนื่อง เนื่องจากมีการจ่ายปันผลที่ดีสม่ำเสมอ ธุรกิจมีการเติบโตดี

          ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง QH ว่า ยอด Presales 9 เดือนปี 2562 ทำได้ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ และคิดเป็น 48% ของเป้าปีนี้ที่ 12,400 ล้านบาท ดังนั้นคาดว่าปีนี้ QH จะทำ Presales พลาดเป้าประมาณ 30% หรือทำได้ประมาณ 8,500 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3/2562 เปิดโครงการใหม่ 3 โครงการมูลค่า 3,700 ล้านบาท และในไตรมาส 4/2562 มีแผนเปิดอีก 3 โครงการรวมทั้งปี 8,500 ล้านบาท

          ทั้งนี้คาดรายได้ของปี 2562 ที่ 11,822 ล้านบาท ลดลง 27% จากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากส่วนแบ่งของบริษัทลูกที่คาดว่ายังเติบโตโดดเด่น เติบโต 7% จากปีก่อน และคิดเป็น 64% ของกำไรสุทธิของปี 2562 ที่คาดไว้ที่ 2,961 ล้านบาท (ลดลง 22% จากปีก่อน โดยใน ไตรมาส 3/2562 คาดรายได้ที่ 2,526 ล้านบาท ลดลง 44% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ เติบโต 9.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และกำไรสุทธิที่ 690 ล้านบาท อย่างไรก็ดี QH มีจุดเด่นที่ส่วนแบ่งจากบริษัทร่วมลงทุนที่แข็งแกร่งและเงินปันผลที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 6.5-7%+/- ต่อปี คงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 3.00 บาทต่อหุ้น (PER 9 เท่า -0.5SD)