เอกชนวอนรัฐฟันธงอุ้มอสังหาฯ
Loading

เอกชนวอนรัฐฟันธงอุ้มอสังหาฯ

วันที่ : 30 ตุลาคม 2562
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยรอความชัดเจนมาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองเหลือ 0.01%
          นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่าขณะนี้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยรอความชัดเจนมาตรการลดภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองเหลือ 0.01% ออกมาสนับสนุนให้คนไทยมีบ้านเป็นของตัวเองแต่การที่ไม่ประกาศวันเวลาการเริ่มมาตรการ ทำให้ปัจจุบันภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์เกิดการหยุดชะงักชั่วคราว เพราะทุกฝ่ายชะลอการโอนกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้มียอดคงค้างอยู่จำนวนมาก โดยอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้า

          ขณะเดียวกัน อยากเสนอให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณามาตร การอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวได้มากกว่านี้ ทั้งการผ่อนปรนมาตรการกำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) ที่ควรผ่อนปรนสัญญาเริ่มต้นจากเดิมกำหนดให้การซื้อบ้านหลังที่ 2 ควรเริ่มมีเงินดาวน์สัญญา 3 แทน, เพิ่มมาตรการจูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยภายในประเทศ และช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินมีความเข้มงวดมากขึ้น การพิจารณาที่ใช้เวลานาน และเอกสารที่ต้องยื่นจำนวนมาก

          "ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงมามาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะได้รับผลกระทบของภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับมาตรการของนโยบายการเงิน ทั้งศักยภาพการยื่นกู้ของประชาชนจากสถาบันการเงิน รวมทั้งมาตรการแอลทีวีที่ยังมีอยู่ ทำให้บรรยากาศการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยลดลง เพราะคนไม่กล้าใช้จ่ายเงินออกมา ส่วนตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบจากอัตราค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้ชาวต่างชาติเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์น้อยลง"

          สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไตรมาส 3 ปี 62 พบว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นมูลค่า 100,000 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนโครงการเปิดใหม่ที่เข้ามาในตลาดปรับตัวลดลง 45% และปัจจุบันมีสินค้าอยู่ในตลาดรวมมูลค่าอยู่ที่ 870,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดการโอนกรรมสิทธิ์ ช่วง 9 เดือนอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท ลดลง 22% ส่วนอัตราการขายของโครงการเปิดใหม่ปรับตัวลดลงเหลือ 16-17% ลดลงจากเดิม 36-38% โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มาตรการแอลทีวีที่ส่งผลกระทบต่อการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนทั้งนี้ มองว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์แค่สะดุดครั้งใหญ่ แต่ยังไม่ล้ม เพราะยังเดินธุรกิจต่อไปได้ โดยต้องระมัดระวังและต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามกฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนไป ส่วนปี 63 ยังเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ ต้องบริหารจัดการต้นทุนให้รอบคอบ

          นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนอง เหลือ 0.01% ของภาครัฐที่ออกมามองว่าสนับสนุนได้ในเชิงจิตวิทยาเท่านั้น เพราะมาตรการครั้งนี้กำหนดเพดานของมูลค่าที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ทำให้เกิดการซื้อขายที่อยู่อาศัยมีอยู่จำกัด ต่างจากปี 58 ที่ไม่ได้กำหนดราคา ส่วนการที่ยังไม่ประกาศเริ่มโครงการ ส่งผลให้ปัจจุบันสภาวะของตลาดอยู่ในช่วงสุญญากาศ เนื่องจากผู้ประกอบการและประชาชนกำลังรอความชัดเจน ทำให้การซื้อที่อยู่อาศัยช่วงนี้ไม่หวือหวามากนัก และสุดท้ายคงต้องตามดูว่าประชาชนจะเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากน้อยแค่ไหน หากเข้าถึงยากเหมือนที่ผ่านมา มาตรการนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ