บิ๊กเอพีฯ ระบุอสังหาฯไทยอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง ช่วงขาลงเทียบกับยุคแฮมเบอร์เกอร์ แนะปรับตัวพัฒนาบุคลากรรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้านฮาบิแททชี้อสังหาฯ เพื่อการลงทุนโตต่อเนื่องลุยเปิด 2 โครงการย่านทองหล่อ
            นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 2562 ถือเป็นปีที่เหนื่อยอีกปีของธุรกิจนี้ ถือว่าอยู่ใน "ยุคข้าวยากหมากแพง" แต่ไม่ได้เลวร้ายเช่นเดียวกับวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เพราะสถาบันการเงินยังแข็งแกร่ง ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความระมัดระวัง หนี้ของผู้ประกอบการอยู่ในระดับต่ำ ความต้องการซื้อบ้านยังมี
            "ยุคนี้เป็นยุคข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจไม่ได้เลวร้ายเหมือนปี 40 แค่ประมาณยุคแฮมเบอร์เกอร์ เพียงแต่ทุกอย่างจะต้องใช้ความพยายามมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหาแหล่งเงินทุนพัฒนาโครงการแบงก์ยังปล่อยสินเชื้อแม้ว่าจะพิจาณายากขึ้น เงินในตลาดทุนยังมีแต่ดอกเบี้ยอาจจะสูง คนซื้อมีแต่ขอกู้ยากขึ้น ทุกอย่างต้องใช้ความพยายามมากขึ้น" นายอนุพงษ์กล่าว
            การดำเนินธุรกิจต้องอยู่บนพื้นฐานของความระมัดระวัง ซึ่งนับจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 บริษัทได้กำหนดหนี้สินต่อทุนให้อยู่ที่ระดับ 1:1 บวก-ลบ บริษัทควบคุมหนี้ด้วยการซื้อที่ดินหากขายดีรายได้ดีก็จะซื้อที่ดินมาก แต่ช่วงที่ขายไม่ได้จะลดการซื้อที่ดินลง ซึ่งในช่วงนี้บริษัทซื้อที่ดินพัฒนาแนวราบเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากยอดขายโครงการแนวราบเติบโตดี ส่วนโครงการคอนโดฯ ยังสามารถขยายตังได้
            นายอนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ธุรกิจอสังหาฯมีไซเคิลขึ้นลงเป็นเรื่องปกติ แต่ในระยะหลัง ไซเคิลมาเร็วขึ้นและรูปแบบของปัญหาที่เข้ามากระทบให้เกิดไซเคิลไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของโลกเกิดขึ้นเร็วมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของคน ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องพัฒนาตัวเองและบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
            นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ หรือ "ไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์" โดยในปี 2563 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูส 1 โครงการ บนพื้นที่กว่า 8 ไร่ ทำเลจอมเทียน ภายในโครงการประกอบด้วย คอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน เพื่ออยู่อาศัย และ โรงแรมระดับ 5 ดาว มูลค่าโครงการกว่า 4,500 ล้านบาท ส่วนในทำเลกรุงเทพฯ บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ จำนวน 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท ลิสต์ กรุ๊ป จากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ วาลเด้น ได้แก่ วาลเด้น ทองหล่อ 8 และ วาลเด้น ทองหล่อ 13 มูลค่ารวม 2,800 ล้านบาท เริ่มเปิดขาย 10 ตุลาคมนี้  โดยในต่างประเทศทำตลาดผ่านเครือข่ายลิสต์ กรุ๊ป ซึ่งผู้ซื้อจะได้การันตีผลตอบแทน 6% ในช่วง3 ปีแรก หลังจากนั้นจะได้ส่วนแบ่งรายได้ 70%  ตลอด 30 ปี
            ในปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายมียอดขาย 3,000 ล้านบาท ส่วนยอดโอนบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอนอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนไปจนถึงปี 2564 ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท