คอลัมน์ ดาต้าเบส: เช็กลิสต์ 19 รายการ คอนโดมิเนียมแนวใหม่
วันที่ : 16 กันยายน 2562
ได้เวลาอัพเดตเทรนด์พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม พ.ศ. 2562 ซึ่งทางผู้เผยแพร่ข้อมูล "ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย" ระบุว่าเป็นทิศทางคอนโดมิเนียมแนวใหม่
ได้เวลาอัพเดตเทรนด์พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม พ.ศ. 2562 ซึ่งทางผู้เผยแพร่ข้อมูล "ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย" ระบุว่าเป็นทิศทางคอนโดมิเนียมแนวใหม่
"แฟรงค์ ข่าน" กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอเทรนด์การพัฒนาคอนโดฯ เพื่อเจาะลูกค้ายุคใหม่ เน้นนำเสนอสินค้า+บริการ
จุดเน้นอยู่ที่พยายามเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและตอบสนองต่อความต้องการและความจำเป็นของลูกค้าให้มากที่สุด โดยพัฒนาจากความต้องการของลูกค้าจริง ๆ
นำไปสู่การดีไซน์รูปแบบยูนิตให้เลือกหลากหลาย มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ผู้อาศัยได้รับความสะดวกสบายและยกระดับการใช้ชีวิตภายในโครงการดียิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้นำเสนอผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ สรุปสั้น ๆ "3 more"
ประกอบด้วย "more services" มี 10 รายการด้วยกัน คือ บริการรูปแบบโรงแรม, พนักงานต้อนรับ, พนักงานยกกระเป๋า, เทรนเนอร์ฟิตเนส, เชฟส่วนตัว, สปาทรีตเมนต์, บริการแจ้งซ่อมฉุกเฉิน, คลินิกแพทย์, รถลิมูซีน, บริการแม่บ้าน
"more facilities & common space" 5 รายการ คือ พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำ 50 เมตรเทียบเท่า โอลิมปิกไซซ์, ฟิตเนสเล่นได้ 24 ชั่วโมง, เลนจ็อกกิ้งกลางแจ้ง, สวนสีเขียว
"more comfort & technology" 4 รายการ คือ แอปพลิเคชั่น, ระบบโฮมออโตเมชั่น, ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำ 3 ฟังก์ชั่น
ทั้งนี้ ไนท์แฟรงค์ชี้เป้าทำเลคอนโดมิเนียมแนวใหม่ มักตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงย่านธุรกิจและใกล้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายหลัก
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) มีราคาที่ดินสูงขึ้นทุกปี
ดังนั้น หากขยับไปอีกหน่อยตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในอนาคตอีก 3-4 ปีเมื่อสร้างเสร็จจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีลำสาลี
การเชื่อมต่อดังกล่าวมีผลอย่างมากต่อการยกระดับศักยภาพพื้นที่ ซึ่งบ่งบอกถึงความหมายว่าเป็นย่านการแข่งขันของคอนโดฯแนวใหม่โดยตรง
ไนท์แฟรงค์อ่านเทรนด์กำลังซื้อลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจีนด้วยว่า หลังจากปี 2562 ผ่านมาแล้ว 7-8 เดือน พบว่าแผนกลยุทธ์การตลาดในต่างประเทศอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับในช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา
ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ควรระวังและจับตาดูแผนการตลาดและงบประมาณของแต่ละไตรมาสอย่างใกล้ชิดเมื่อลงทุนในตลาดต่างประเทศ
เช่น "ฮ่องกง" และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "จีน" ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักลงทุนรายสำคัญ
ข้อจำกัดด้านการโอนเงินข้ามประเทศที่เข้มงวด กลายเป็นอุปสรรคก้อนโตของดีมานด์ลูกค้าจีนใน วินาทีนี้
"แฟรงค์ ข่าน" กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด นำเสนอเทรนด์การพัฒนาคอนโดฯ เพื่อเจาะลูกค้ายุคใหม่ เน้นนำเสนอสินค้า+บริการ
จุดเน้นอยู่ที่พยายามเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและตอบสนองต่อความต้องการและความจำเป็นของลูกค้าให้มากที่สุด โดยพัฒนาจากความต้องการของลูกค้าจริง ๆ
นำไปสู่การดีไซน์รูปแบบยูนิตให้เลือกหลากหลาย มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ผู้อาศัยได้รับความสะดวกสบายและยกระดับการใช้ชีวิตภายในโครงการดียิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้นำเสนอผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ สรุปสั้น ๆ "3 more"
ประกอบด้วย "more services" มี 10 รายการด้วยกัน คือ บริการรูปแบบโรงแรม, พนักงานต้อนรับ, พนักงานยกกระเป๋า, เทรนเนอร์ฟิตเนส, เชฟส่วนตัว, สปาทรีตเมนต์, บริการแจ้งซ่อมฉุกเฉิน, คลินิกแพทย์, รถลิมูซีน, บริการแม่บ้าน
"more facilities & common space" 5 รายการ คือ พื้นที่ออกกำลังกายขนาดใหญ่, สระว่ายน้ำ 50 เมตรเทียบเท่า โอลิมปิกไซซ์, ฟิตเนสเล่นได้ 24 ชั่วโมง, เลนจ็อกกิ้งกลางแจ้ง, สวนสีเขียว
"more comfort & technology" 4 รายการ คือ แอปพลิเคชั่น, ระบบโฮมออโตเมชั่น, ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำ 3 ฟังก์ชั่น
ทั้งนี้ ไนท์แฟรงค์ชี้เป้าทำเลคอนโดมิเนียมแนวใหม่ มักตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงย่านธุรกิจและใกล้ระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายหลัก
อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่าแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) มีราคาที่ดินสูงขึ้นทุกปี
ดังนั้น หากขยับไปอีกหน่อยตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ในอนาคตอีก 3-4 ปีเมื่อสร้างเสร็จจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีลำสาลี
การเชื่อมต่อดังกล่าวมีผลอย่างมากต่อการยกระดับศักยภาพพื้นที่ ซึ่งบ่งบอกถึงความหมายว่าเป็นย่านการแข่งขันของคอนโดฯแนวใหม่โดยตรง
ไนท์แฟรงค์อ่านเทรนด์กำลังซื้อลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจีนด้วยว่า หลังจากปี 2562 ผ่านมาแล้ว 7-8 เดือน พบว่าแผนกลยุทธ์การตลาดในต่างประเทศอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับในช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา
ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ควรระวังและจับตาดูแผนการตลาดและงบประมาณของแต่ละไตรมาสอย่างใกล้ชิดเมื่อลงทุนในตลาดต่างประเทศ
เช่น "ฮ่องกง" และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "จีน" ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักลงทุนรายสำคัญ
ข้อจำกัดด้านการโอนเงินข้ามประเทศที่เข้มงวด กลายเป็นอุปสรรคก้อนโตของดีมานด์ลูกค้าจีนใน วินาทีนี้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ