แบงก์ลุ้นกระตุ้นศก.ครึ่งหลัง
วันที่ : 25 กรกฎาคม 2562
แชร์ :
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ เชื่อว่าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเบร็กซิท สงครามการค้าสหรัฐและจีน การส่งออกที่ชะลอตัวลงและติดลบ ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ล่าสุดการส่งออกมีแนวโน้มปรับดีขึ้น
หนุนรักษาเสถียรภาพดูแลบาท
จ่อผุดเกณฑ์ช่วยลูกค้าเจอแล้ง
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ เชื่อว่าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเบร็กซิท สงครามการค้าสหรัฐและจีน การส่งออกที่ชะลอตัวลงและติดลบ ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ล่าสุดการส่งออกมีแนวโน้มปรับดีขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนมิถุนายน คิดลบ 2.15% มูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ 6 เดือนแรก 2562 ติดลบ 2.93% เฉลี่ยต่อเดือน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการส่งออกทั้งปีมีโอกาสเป็นบวกได้ ถ้ามูลค่าส่งออกต่อเดือนมีมูลค่าถึง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดจีดีพีเติบโต 2.9-3.3% ขณะที่การส่งออกคาดว่าติดลบ 1-1%
"หวังว่ารัฐบาลใหม่น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ด้านนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเป็นด้านใดก่อนนั้น ผู้ทำนโยบายน่าจะทราบอยู่แล้ว อยู่ที่เม็ดเงินที่มีในมือว่าจะทำอะไรได้เท่าไร เชื่อว่ารัฐบาลจะรับมือได้ ซึ่งในส่วนภาคเอกชนคาดหวังให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับเหมาะสมสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจ" นายปรีดีกล่าว
นายปรีดีกล่าวว่า สำหรับปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ ยังต้องติดตามและประเมินผลกระทบว่ากระทบมากน้อยเพียงใด กระทบพืชผลอย่างไร โดยธนาคารมี เจ้าหน้าที่ธนาคารติดตามดูแลอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องออกมาตรการช่วยเหลือ หากรุนแรงจำเป็นต้องออกมาตรการดูแลลูกค้าทางธนาคาร กสิกรไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการเหมือนที่ผ่านๆ มา เช่น ช่วงที่เกิดน้ำท่วม
ด้านนายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทยังลงทุนต่อเนื่องในสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ เพื่อต่อยอดธุรกิจของธนาคารทั้งสตาร์ตอัพด้านนวัตกรรมการเงิน (ฟินเทค) รวมทั้งสตาร์ตอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจของธนาคาร โดยบริษัทมีเงินลงทุน 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,000 ล้านบาท มีการลงทุนใน 6 สตาร์ตอัพ เปิดตัวไปแล้วในครึ่งปีแรก 2 ราย และมีแผนจะเปิดตัวอีก 4 สตาร์ตอัพ
จ่อผุดเกณฑ์ช่วยลูกค้าเจอแล้ง
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ เชื่อว่าจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเบร็กซิท สงครามการค้าสหรัฐและจีน การส่งออกที่ชะลอตัวลงและติดลบ ปัจจัยเหล่านี้คาดว่าจะผ่านจุดเลวร้ายที่สุดไปแล้ว ล่าสุดการส่งออกมีแนวโน้มปรับดีขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนมิถุนายน คิดลบ 2.15% มูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ 6 เดือนแรก 2562 ติดลบ 2.93% เฉลี่ยต่อเดือน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการส่งออกทั้งปีมีโอกาสเป็นบวกได้ ถ้ามูลค่าส่งออกต่อเดือนมีมูลค่าถึง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ตามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดจีดีพีเติบโต 2.9-3.3% ขณะที่การส่งออกคาดว่าติดลบ 1-1%
"หวังว่ารัฐบาลใหม่น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ด้านนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการเป็นด้านใดก่อนนั้น ผู้ทำนโยบายน่าจะทราบอยู่แล้ว อยู่ที่เม็ดเงินที่มีในมือว่าจะทำอะไรได้เท่าไร เชื่อว่ารัฐบาลจะรับมือได้ ซึ่งในส่วนภาคเอกชนคาดหวังให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดำเนินการเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจให้เติบโตต่อเนื่อง ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับเหมาะสมสนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจ" นายปรีดีกล่าว
นายปรีดีกล่าวว่า สำหรับปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ ยังต้องติดตามและประเมินผลกระทบว่ากระทบมากน้อยเพียงใด กระทบพืชผลอย่างไร โดยธนาคารมี เจ้าหน้าที่ธนาคารติดตามดูแลอยู่ แต่ขณะนี้ยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องออกมาตรการช่วยเหลือ หากรุนแรงจำเป็นต้องออกมาตรการดูแลลูกค้าทางธนาคาร กสิกรไทยก็พร้อมที่จะดำเนินการเหมือนที่ผ่านๆ มา เช่น ช่วงที่เกิดน้ำท่วม
ด้านนายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทยังลงทุนต่อเนื่องในสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ เพื่อต่อยอดธุรกิจของธนาคารทั้งสตาร์ตอัพด้านนวัตกรรมการเงิน (ฟินเทค) รวมทั้งสตาร์ตอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจของธนาคาร โดยบริษัทมีเงินลงทุน 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,000 ล้านบาท มีการลงทุนใน 6 สตาร์ตอัพ เปิดตัวไปแล้วในครึ่งปีแรก 2 ราย และมีแผนจะเปิดตัวอีก 4 สตาร์ตอัพ
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ
