ซีพีเอ็น รุกอสังหาฯอาเซียนเปิดมาเลย์บุกต่อเวียดนาม
Loading

ซีพีเอ็น รุกอสังหาฯอาเซียนเปิดมาเลย์บุกต่อเวียดนาม

วันที่ : 18 มิถุนายน 2562
"ซีพีเอ็น" เปิดแผนรุกตลาด อสังหาฯค้าปลีกอาเซียน สานวิชั่น โกลบอล เพลย์เยอร์ หลังบริหารศูนย์การค้าในไทย 32 แห่ง ล่าสุด เปิดศูนย์การค้า"เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้"ในมาเลย์ กรุยทางศึกษาความเป็นไปได้เปิดที่มาเลย์อีกแห่ง เล็งบุกตลาดเวียดนาม เป็นลำดับต่อไป
          "ซีพีเอ็น" เปิดแผนรุกตลาด อสังหาฯค้าปลีกอาเซียน สานวิชั่น โกลบอล เพลย์เยอร์ หลังบริหารศูนย์การค้าในไทย 32 แห่ง ล่าสุด เปิดศูนย์การค้า"เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้"ในมาเลย์ กรุยทางศึกษาความเป็นไปได้เปิดที่มาเลย์อีกแห่ง เล็งบุกตลาดเวียดนาม เป็นลำดับต่อไป

          จากวิชั่นของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ธุรกิจในเครือเซ็นทรัล ของตระกูล จิราธิวัฒน์ หลังเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการค้าปลีกในไทย สเต็ปต่อไป คือ การก้าวสู่ การเป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้าในระดับภูมิภาค  (Regional Player) และระดับโลก (Global Player) โดยโฟกัสไปที่ตลาดอาเซียน

          นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ในฐานะที่เป็นบริษัทไทยในตลาดหลักทรัพย์ ขนาดใหญ่ ที่พัฒนาศูนย์การค้าอย่างเต็มรูปแบบ และมีความเชี่ยวชาญในการบริหารศูนย์การค้าและธุรกิจค้าปลีก จึงมีแผนขยายธุรกิจด้วยการเข้าไปลงทุนในต่างประเทศที่มีอัตราการเติบโตของเมือง ตามกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อ

          ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ศึกษาตลาดมาหลายประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้เล่นระดับโลก โดยการพัฒนาศูนย์การค้าระดับภูมิภาค ผ่านโรดแมพ "Central to ASEAN" และสร้างรีจินัล รีเทล แพลตฟอร์ม เพื่อเป็นช่องทางแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการสำหรับผู้ประกอบการในภูมิภาคและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

          "เราเห็นโอกาสความเติบโตอาเซียนจึงอยากเห็นความเติบโต ของธุรกิจไทยในต่างประเทศ โดยสร้างเป็นแพลตฟอร์มหรือ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่นำพา ผู้ประกอบการ และยกระดับศูนย์การค้าการชอปปิงออกสู่ ต่างประเทศเสมือนเป็นยานแม่"

          เดินเกมผนึก"พันธมิตรธุรกิจ"

          โดยมี'จิ๊กซอว์'สำคัญทั้งพันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า และพาร์ทเนอร์ ผู้เช่าทุกราย ที่จะเข้ามาร่วมกัน เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ และ เสริมแกร่งให้ธุรกิจของกันและกัน ที่จะทำให้ซีพีเอ็นและพันธมิตรก้าวเดินไปข้างหน้า สร้างเทรนด์ใหม่ ให้ธุรกิจค้าปลีกและเติบโตไปด้วยกัน ไม่จำกัดเฉพาะอยู่แค่ในประเทศอีกต่อไป เน้นขยายการลงทุน ร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับยักษ์ใหญ่ เพื่อเพิ่ม "โอกาส" เติบโตทั้งในและต่างประเทศ

          เช่น การร่วมทุนกับไอ-เบอร์ฮาด พัฒนาโครงการ "เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้" ในมาเลเซีย (เปิดตัวไปเมื่อ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา) ซึ่งเป็นโครงการศูนย์การค้าแห่งแรกในต่างประเทศของซีพีเอ็นที่ใช้งบลงทุนกว่า 8,500 ล้านบาท บนพื้นที่ 28 ไร่ พื้นที่โครงการ 278,000 ตารางเมตร โดยซีพีเอ็นถือหุ้น 60% และ ไอ-เบอร์ฮาด 40% ตั้งอยู่ในโครงการ ไอ-ซิตี้อัลตราโพลิส ไลฟ์สไตล์ ฮับ สุดยิ่งใหญ่ ในเมืองชาห์อลัม ประกอบด้วยศูนย์การค้า, อาคารสำนักงานขนาดใหญ่, ที่อยู่อาศัย โรงแรม สวนสนุก และศูนย์กลางทางด้านไซเบอร์และนวัตกรรม

          "ที่ผ่านมาเมืองชาห์อลัม ไม่มีคนสนใจแต่เรามองเห็นโอกาส ว่าเป็นศูนย์กลางชุมชนในเขตตะวันตกของรัฐสลังงอร์ แต่เรามีตาที่เฉียบคม มองเห็นจุดแข็ง ที่สามารถสร้างขึ้นได้เพราะซีพีเอ็นเป็นผู้ประกอบการที่รู้ถึงความต้องการแท้จริงของผู้บริโภคจึงไม่กลัว ต่างจากผู้ประกอบการทั่วไปที่มองแค่ว่าต้องเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ในกัวลาลัมเปอร์ เท่านั้นแต่เรา ไม่ได้คิดแบบนั้น เรามองหาโอกาส วิธีการเติบโตที่ไม่เหมือนใครและไม่ผูกติดกับใคร"

          2เดือนมีผู้เช่าพื้นที่แล้ว 60%

          นางสาววัลยา ยังกล่าวว่า 2 เดือนที่ผ่านมาหลังจากเปิดให้บริการเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ได้รับการตอบรับที่ดี มีผู้เช่าพื้นที่ 60% โดยแบรนด์ไทยมาขยายสาขา อาทิ Cafe Amazon, Black Canyon, Barbeque Plaza, ชาตรามือ, ชาพะยอม เป็นต้น และสินค้าจากโครงการหลวง รวมถึงอาหาร ไทย, สปาแบบไทย คาดว่า สิ้นปีจะมีผู้เช่า 85% ทั้งจากผู้ประกอบการไทยและมาเลเซีย ทั้งนี้เนื่องจากตัวเลขคนเข้ามาใช้ชีวิตในศูนย์การค้า (Traffic) ในช่วงวันธรรมดา 30,000 คน ส่วนตัวเลขคนเข้ามาในช่วงวันหยุด 40,000-50,000 คน เท่ากับตัวเลขคนมาเดินในเซ็นทรัลบางนาถือว่าสูง สำหรับศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ ส่วนระยะเวลาการคุ้มทุน 5-10 ปีตามมาตรฐานของศูนย์การค้า

          มุ่งตอบโจทย์"มัลติ-คัลเจอร์ส"

          "เรานำความเชี่ยวชาญด้านรีเทล มิกซ์ ของซีพีเอ็นมาใช้และเป็นครั้งแรกที่พัฒนาศูนย์การค้าอินเตอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแบบ มัลติ -คัลเจอร์ส เพราะกลุ่มลูกค้าในมาเลเซียมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยมีสัดส่วนของมุสลิม 60% คนจีน 25% ที่เหลือ 10% เป็นคนอินเดียและชาวตะวันตก ซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากมีเศรษฐกิจใหญ่พอกับประเทศไทย แม้ว่าจำนวนประชากรจะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งแต่รายได้เฉลี่ยของประชากรมากกว่าไทย 2 เท่า และมีตัวเลขจีดีพีใกล้เคียงกับประเทศไทย ภูมิอากาศ วัฒนธรรมใกล้เคียงกัน แต่อาจจะแตกต่างกันในเรื่องของ รายละเอียด"

          เล็งบุกตลาดเวียดนาม

          นอกจากนี้ ทางซีพีเอ็น ยัง เปิดรับและมองหาโอกาสใน การลงทุนสร้างศูนย์การค้าใน มาเลเซียอีก 1 แห่ง และได้เตรียม แผนบุกตลาดประเทศเวียดนาม เป็นประเทศต่อไป เพื่อลงทุน สร้างศูนย์การค้าอีก 2 แห่ง ขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งเป็นไป ตามวิสัยทัศน์ของซีพีเอ็น ที่ ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยเป็นศูนย์การค้า "ไม่ใช่" แค่ประเทศไทย จากปัจจุบันเป็นเจ้าของและบริหารศูนย์การค้าภายใต้แบรนด์หลัก Central Plaza Central World และCentral Festival ในประเทศ รวมทั้งหมด 32 แห่ง ในกรุงเทพฯ 14 แห่ง และต่างจังหวัด 18แห่ง

          "เราอยากเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ชอปปิง ดีเวลลอปเปอร์ ไม่อยากได้แค่ลีกไทย แต่อยากได้ลีกระดับโลก เริ่มระดับอาเซียนก่อน ซึ่งหลังจาก ทำงานเหนื่อยมา 7 ปี ได้เปิดศูนย์การค้าในต่างประเทศในมาเลเซียแห่งแรก ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีเพราะเศรษฐกิจมาเลเซียกำลังจะขึ้นถ้ามัวแต่ชักช้า โอกาสมันหายไปน่าเสียดายเพราะที่ผ่านมาสิงคโปร์มาลงทุนในมาเลเซียเยอะมาก ทั้งๆที่ ควรจะเป็นผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะธุรกิจอาหาร นอกจากนี้ ยังมีญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ที่ลงทุนด้านชอปปิงเซ็นเตอร์ แต่ขนาดมาใหญ่มาก" นางสาววัลยา กล่าว
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ