ชี้ครึ่งปีหลังอสังหายังเหนื่อยแอลทีวีฉุดยอดโอนปีนี้ติดลบ
Loading

ชี้ครึ่งปีหลังอสังหายังเหนื่อยแอลทีวีฉุดยอดโอนปีนี้ติดลบ

วันที่ : 3 มิถุนายน 2562
3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังเหนื่อย เพราะต้องเผชิญผลกระทบแอลทีวีฉุดยอดโอนปี 2562 ติดลบ อีกทั้งกำลังซื้อชะลอตัว คาดปีนี้ยอดโอนติดลบ 7.7%
          3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ เผยตลาดอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังยังเหนื่อย เพราะต้องเผชิญผลกระทบแอลทีวีฉุดยอดโอนปี 2562 ติดลบ อีกทั้งกำลังซื้อชะลอตัว คาดปีนี้ยอดโอนติดลบ 7.7%

          นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยวิเคราะห์ในงานเสวนา "ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 2562 หลังมาตรการรัฐ" ว่า แนวโน้มสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังจะเหนื่อย เพราะมีปัจจัยลบรอบด้านทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ คือสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้ผู้ประกอบการรอดูสถานการณ์ก่อนตัดสินใจลงทุน ขณะที่สถานการณ์ในประเทศ การเมืองยังไม่ชัดเจน แม้ว่าในไตรมาสแรกยอดขายดีแต่เป็นยอดขายสต็อกเก่า ส่งผลให้ไตรมาสสอง ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ เช่น พฤกษา อนันดา เริ่มออกมาจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย หลังจากชะลอมา 4 เดือน แม้รัฐจะออกมาตรการออกมากระตุ้นแต่ไม่ได้ช่วยตลาดกระเตื้องขึ้น นอกจากนี้ผู้ประกอบการบางรายยังศึกษาที่จะลงทุนอสังหาฯ ในรูปแบบอื่นๆ เช่น อสังหาฯ ประเภทเดย์แคร์ดูแลสูงอายุ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าจีนที่นิยมเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในหัวเมืองรอง ล่าสุดมีกลุ่มนักลงทุนจีนเข้ามาร่วมคนไทยกำลังทำเดย์แคร์ ขนาด 2,000 ไร่ที่หัวหิน เพื่อรองรับผู้สูงอายุจีนที่เข้ามา ถือเป็นโอกาสธุรกิจที่น่าสนใจ รวมทั้งศูนย์ประชุมสัมมนาในหัวเมืองเพื่อรองรับตลาดไมซ์ ในหัวเมืองใหญ่ เช่น จ.ขอนแก่น จ. อุดรธานี เป็นต้น แทนที่จะไปลงทุนทำบ้าน คอนโดมิเนียม ที่มีซัพพลายล้นตลาด กำลังซื้อน้อย สู้มาลงทุนทำอสังหาฯ ในรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นรายใหญ่เท่านั้นที่ทำได้ รายเล็ก รายกลาง มาร่วมกันทำสามารถทำได้ดีไม่แพ้รายใหญ่ ในลักษณะมิกซ์ ยูส ดีเวลลอปเปอร์

          นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้าน กล่าวว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก อย่าลงทุนเกินตัว ให้ระวังสภาพคล่อง เพราะจากภาพรวมตลาดแนวราบลดลงไปกว่า 10% ฉะนั้นการทำโครงการจะต้องมั่นใจว่าสามารถทำเงินได้ไม่ใช่ใช้เงิน และอะไรที่จ้างได้ก็จ้างเพื่อไม่เกิดต้นทุนคงที่ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดอสังหาฯ มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าสมัยก่อน การจะตัดสินใจลงทุนอะไรจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลทั้งแง่ดีมานด์ และซัพพลายก่อนว่ามีมากน้อยขนาดให้และจะเข้าไปจับลูกค้ากลุ่มไหน ต้องมีความชัดเจน ไม่ใช่หว่านแหเหมือนในอดีต

          นายธนากร ธนวริทธิ์ กรรมการบริหาร สมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปีนี้ตลาดคอนโดร่วงเพราะการเปิดตัวน้อยลง แต่ผู้ประกอบการต้องปรับตัว จากเดิมที่อาจเปิดตัวโครงการไตรมาสละ 4 โครงการ ก็ต้องลดลง แนวทางการทำตลาดต่อจากนี้ผู้ประกอบการควรจะเร่งระบายสินทรัพย์ให้เป็นเงินสดให้ได้มากที่สุด และไม่ควรทำโครงการขนาดใหญ่เกินกว่า 300ยูนิต มิฉะนั้นลำบากในการระบายสินค้า หลังจากนี้ไปจะเหลือแต่เรียลดีมานด์ ที่เกิดจากกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง กับกลุ่มที่ซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่เป็นนิวมิลเลียนแนร์

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กล่าวว่า ปี 2562 ยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ทั้งประเทศลดลง 7.7% เป็นคาดการณ์ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงต้นปีที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 15% เนื่องจากมี 2 มาตรการรัฐเข้ามาสนับสนุนภาพรวมยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ทั่วประเทศในไตรมาสแรกปี 2562 พบว่ามียอดโอนเพิ่มขึ้น 3.1% เพราะมีการเร่งโอนก่อนที่มาตรการคุมเข้มสินเชื่อ (LTV) มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนไตรมาส 2 ประเมินว่ายอดโอนจะลดลง 13.8%ไตรมาสที่ 3 ลดลง 9.2% และไตรมาสที่ 4 ลดลง 9.6% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่ายอดโอนทั้งปีจะติดลบ 10.2% โดยครึ่งปีแรกจะลดลง 4.8% ส่วนครึ่งปีหลังลดลง 14.9% ในช่วงที่ผ่านมามีการชะลอเปิดตัวโครงการ เพื่อระบายสต็อกในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้นักพัฒนานอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มเข้ามาพัฒนาโครงการเข้ามาแข่งขันมากขึ้นกว่าปีก่อน