“CGD” จ่อบุ๊กรายได้โอนคอนโด “โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ” ในปีนี้กว่า 8 พันล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้จากการเปิดบริการโรงแรมหรู 2 แห่ง “คาเพลลา กรุงเทพ- โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ” คาดเปิดปลาย Q3 หรือต้น Q4 หนุนผลงานปีนี้จ่อพลิกมีกำไร

          นายเบน เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสภายใต้ชื่อโครงการเจ้าพระยา เอสเตท มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ว่า ในส่วนของโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ 73 ชั้น จำนวนรวม 366 ห้อง มูลค่ารวม 2.1 หมื่นล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 80% หรือคิดเป็นยอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการโอนในปี 2562 อย่างต่ำประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งเริ่มมีการทยอยโอนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 ส่วน Backlog ที่เหลือจะทยอยโอนรับรู้รายได้ในปี 2563

          นอกจากนี้ ห้องชุดที่เหลือยังไม่ได้ขายอีก 20% บริษัทต้องการปรับราคาขายที่สูงขึ้นในช่วงที่มีการเปิดให้บริการโรงแรม ซึ่งราคาสูงสุดที่บริษัทขายอยู่ที่ 550,000 บาท/ตารางเมตร และปัจจุบันขายอยู่ที่ราคา 380,000 บาท/ตารางเมตร

          “ยอดขายโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ มาจากสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศ 60% และลูกค้าคนไทย 40% โดยยอดขายลูกค้าต่างประเทศอันดับหนึ่งเป็นลูกค้าฮ่องกง รองลงมาคือ สิงคโปร์ ไต้หวัน จีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งบริษัทได้มีการเดินทางไปโรดโชว์เพื่อขายโครงการในฮ่องกงปีละ 1 ครั้ง โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 330,000 บาท/ตารางเมตร” นายเบน กล่าว

          ขณะที่ ในส่วนของโรงแรม 2 แห่ง ภายในโครงการเจ้าพระยา เอสเตท คือ โรงแรม คาเพลลา กรุงเทพ ซึ่งเป็นโรงแรมหรูเหนือระดับ 5 ดาว ที่เป็นห้องสวีทริมแม่น้ำทั้งหมด จำนวน 101 ห้อง และโรงแรม โฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ 22 ไร่ ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว สไตล์รีสอร์ตใจกลางเมือง จำนวน 299 ห้อง โดยทั้ง 2 โรงแรมดังกล่าวจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการในช่วงปลายไตรมาส 3/2562 หรือต้นไตรมาส 4/2562 ซึ่งหากเปิดบริการเต็มปีคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้บริษัทมีรายได้ประจำสม่ำเสมอมากขึ้น นอกเหนือจากรายได้จากการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นที่อยู่อาศัย

          นายเบน กล่าวต่อว่า ในปี 2562 หลังมีรับรู้รายได้จากการโอนโครงการคอนโดมิเนียม “โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ กรุงเทพ” และรับรูรายได้จากการเปิดบริการโรงแรมทั้ง 2 แห่งภายในโครงการเจ้าพระยา เอสเตทแล้ว เชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นมาก และน่าจะส่งผลทำให้ผลประกอบการทั้งปี 2562 มีกำไรสุทธิได้ และน่าจะส่งผลทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอย่างมาก จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.79 เท่า

          นอกจากนี้ บริษัทเตรียมลงทุนในโครงการโรงเรียนนานาชาติ บนที่ดินขนาด 16 ไร่ 2 งาน 18.6 ตารางวา บริเวณถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ตำบลช่องนนทรีย์ อำเภอยานนาวา กรุงเทพมหานคร โดยมีเงินลงทุนจำนวนไม่เกิน 3,742 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าที่ดินซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท) โดยเตรียมเปิดตัวโรงเรียนนานาชาติชั้นนำสำหรับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลจนถึง เกรด 12 ในกรุงเทพ ในปี 2564 ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และโรงเรียนนานาชาติในอังกฤษ

          ส่วนการลงทุนในต่างจังหวัด ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 80 ไร่เศษ ซึ่งซื้อไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการแนวราบ และรีเทล โดยต้องการสร้างเป็นแบบมิกซ์ยูส เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต