"ดุสิตธานี" เล็งจับมือ พันธมิตร ลงทุนโครงการมิกซ์ยูส- โครงการที่อยู่อาศัย หวังกระจายฐานรายได้ พร้อมเดินหน้าซื้อกิจการเพิ่มมาหนุน ธุรกิจหลักรวมถึงธุรกิจอื่นที่มีมาร์จินสูง คาดรายได้ปีนี้โต 8-10% จากปีก่อน เล็งนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ปี 2563

          นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนกระจายฐานรายได้มากขึ้น เช่น บริษัทมีแผนที่จะลงทุนโครงการ มิกซ์ยูส (Mixed-use) เพิ่ม จากปัจจุบัน ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โครงการ Dusit Central Park สีลม เพราะเป็นโครงการ ที่ดี สามารถมีรายได้ระยะสั้นเข้ามา และมีแผนลงทุนโครงการที่อยู่อาศัย (residential) ที่จะอนุมัติเร็วๆนี้ จากปัจจุบันมีผู้เข้ามาเจรจาหลากหลาย โดยเฉพาะมีบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ที่เข้ามา ถือหุ้นบริษัทในสัดส่วน 5% โดยเป็น ลักษณะโครงการที่อยู่อาศัยแตกต่างจาก ผู้พัฒนาอสังหาฯอื่น

          นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเข้าลงทุน (ซื้อกิจการ) ในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับ ธุรกิจหลัก และธุรกิจอื่นที่สามารถนำมา ต่อยอดจากธุรกิจหลักได้ โดยจะต้อง เป็นธุรกิจที่มีมาร์จินสูง โดยบริษัทตั้งเป้า ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้ที่ ไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็น 25-30% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 16% โดยมาจากธุรกิจอาหาร

          สำหรับในปี 2562 บริษัทคาดว่า รายได้โต 8-10% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 5,565 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้ จากการรับจ้างบริหารโรงแรมเพิ่มอีก 10 โรงแรม  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีรายได้จากการเปิดให้บริการโครงการที่บริษัทลงทุนเอง 2 แห่ง โดยเป็นลักษณะการเช่าอาคารแล้วปรับปรุงเป็นโรงแรม คือ พื้นที่ปทุมวัน และพื้นที่ป้อมปราบ ศัตรูพ่าย ซึ่งเตรียมขออนุมัติผู้ถือหุ้น ในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งจะเพิ่มจำนวนห้องอีก 2 พันห้อง จากปัจจุบันที่มีจำนวน 7.15 พันห้อง  จำนวน 269 โรงแรม โดยเป็นโรงแรมของบริษัท จำนวน 9 แห่ง ที่เหลือ 260 แห่ง เป็นการรับจ้างบริหาร และธุรกิจอาหารเติบโตหลังเข้าไปถือหุ้น 50% ในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (EEC) เปิดร้านอาหารบ้านดุสิต ในเดือนมิ.ย.นี้

          ทั้งนี้บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ 1,140 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนพัฒนาโรงแรม พื้นที่ปทุมวัน และพื้นที่ป้อมปราบศัตรูพ่าย จำนวน 245 ล้านบาท ลงทุน พัฒนาระบบไอที 245 ล้านบาท และอีก 650 ล้านบาท พัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่ลีลม

          นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะขาย สินทรัพย์โรงแรมที่ มัลดีฟส์ เข้ากอง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี (DREIT) มูลค่า 2,304 ล้านบาท ภายในเดือน ก.ย. ซึ่งจะทำให้ปีนี้บริษัทมีกำไรจากการขายสินทรัพย์ดังกล่าวพอสมควร และบริษัทมีแผนที่จะนำบริษัท  เอ็นอาร์ อินสแตนท์โปรดิสซ์ หรือ NRIP ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต และส่งออกซอสและเครื่องปรุงอาหารและเครื่องดื่ม เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2563  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง