ศิริเลิศกรุ๊ป เตรียมดึงกลุ่มต่างชาติเที่ยว ณ สัทธา อุทยาน ตั้งเป้านักท่องเที่ยวเพิ่ม 20% พร้อมเตรียมโอนคอนโดซายน์ สุขุมวิท 50

          นายยุทธลักษณ์ ศิริพรเลิศ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือศิริเลิศ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ใช้งบลงทุนราว 150 ล้านบาท พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวภายใต้ ชื่อ ณ สัทธา อุทยานไทย สถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ บนพื้นที่ 42 ไร่ ใน อ.บางแพ จ.ราชบุรี พร้อมพัฒนาแอพพลิเคชั่น ณ สัทธา รวมถึงระบบซอฟต์แวร์ เพื่อใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอเรื่องราว ผ่านเทคโนโลยี 4.0 ซึ่งได้เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.ปีที่ผ่านมา และพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวไทย

          ทั้งนี้ สัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องส่วนใหญ่เป็นคนไทยเกือบ 100% ทำให้เป้าหมายธุรกิจในปีนี้ บริษัทต้องการเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงได้พัฒนาระบบเพิ่มภาษาอังกฤษและภาษาจีน ในแอพพลิเคชั่น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว พร้อมได้ติดต่อผ่านเอเย่นต์ท่องเที่ยวกว่า 10 ราย ที่พานักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก และ จ.กาญจนบุรี เพิ่มโปรแกรมท่องเที่ยวแวะเยี่ยมชมและท่องเที่ยวอุทยาน ณ สัทธา

          พร้อมกันนี้ มีแผนจัดอีเวนต์ในช่วงเทศกาลสำคัญ ได้แก่ เทศกาลสงกรานต์ และเทศกาลปีใหม่ ในรูปแบบ ณ สัทธา เฟสติวัล ซึ่งในปีที่ผ่านมาการจัดงานช่วงปีใหม่ผ่านการแสดงและกิจกรรมต่างๆ ได้รับการตอบรับที่ดี

          "จากแผนงานดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากปีก่อน  โดยแบ่งเป็นสัดส่วนคนไทย 80% และต่างชาติ เช่น จีนและยุโรป 20%" นายยุทธลักษณ์  กล่าว

          นายยุทธลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ จะขอติตดามสถานการณ์และความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลชุดใหม่หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ก่อนที่จะพิจารณาตัดสินใจลงทุนโครงการ อื่นๆ ในอนาคต โดยเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้บริโภค

          อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีความคืบหน้าของโครงการคอนโดมิเนียม ซายน์ สุขุมวิท 50 จำนวน 105 ยูนิต ที่สามารถปิดยอดขายได้แล้วกว่า 90% โดยการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 75% คาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมโอนในช่วงเดือน ส.ค. 2562 นี้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมียอดรับรู้รายได้ราว 340 ล้านบาท

          นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ได้งานประมูลจำนวน 2 สัญญา รวมมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ได้แก่ การก่อสร้างงานอาคารสาธารณสุข บางซื่อ ของกรุงเทพมหานคร และอาคารที่โรงพยาบาลหนองจอก พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งเป้าขยายงานรับเหมาเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 1-2 งานในปีนี้ มูลค่ารวมประมาณ 200 ล้านบาท