ชิงเค้กบ้านสูงวัย
Loading

ชิงเค้กบ้านสูงวัย

วันที่ : 4 กุมภาพันธ์ 2562
คงต้องยอมรับว่าตัวเลขผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น อีกทั้งมีอายุยืนยาว ไม่ต่างกับประเทศญี่ปุ่นเนื่องจาก ผลของการดูแลตัวเองมาตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ถึงกระนั้นผู้สูงอายุ เปรียบเสมือนไม้ผุ ที่ต้อง เตรียมความพร้อม ทั้ง สถานพยาบาล บ้านพักอาศัยตลอดจนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อย่างวัสดุก่อสร้างตลอดจนสุขภัณฑ์ ส่งผลให้ปัจจุบันเริ่มมีผู้เล่นในตลาดนี้มากขึ้น
          บิ๊กอสังหาปรับตัวรับมือ

          'เอ็นซี' บุกตลาดสูงวัย

          คงต้องยอมรับว่าตัวเลขผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น อีกทั้งมีอายุยืนยาว ไม่ต่างกับประเทศญี่ปุ่นเนื่องจาก ผลของการดูแลตัวเองมาตั้งแต่เนิ่นๆ แต่ถึงกระนั้นผู้สูงอายุ เปรียบเสมือนไม้ผุ ที่ต้อง เตรียมความพร้อม ทั้ง สถานพยาบาล บ้านพักอาศัยตลอดจนธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อย่างวัสดุก่อสร้างตลอดจนสุขภัณฑ์ ส่งผลให้ปัจจุบันเริ่มมีผู้เล่นในตลาดนี้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา มีเพียง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปฯ เพียงรายเดียวและรายแรก ได้มอง เห็นโอกาสทางการตลาด พัฒนา โครงการเมืองสำหรับผู้สูงอายุ ทำเลรังสิต "จิณณ์ เวลบีอิ้ง" นอกจากนี้ ยังมีทำเลประชาอุทิศ และเมืองตากอากาศ ซึ่งมีกระแสตอบรับค่อนข้างดี ทั้งนี้การเริ่มเข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก ย่อมได้เปรียบ อีกทั้งความเป็นมืออาชีพทางการแพทย์ ทำให้เกิดการยอมรับ ความไว้วางใจ ที่จะมอบการดูแลชีวิตยามชรา ไว้ที่นี่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งนี้ นพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการกลุ่มธนบุรีกรุ๊ป สะท้อนว่า ทุกคนต้องเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น ต้องเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า ทั้งการดูแลรักษาตนเอง ทั้งสุขภาพและจิตใจ ไม่เพียงเท่านั้น จะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับที่พักอาศัยอันเหมาะสม สำหรับวัย รวมถึงสถานพยาบาลใกล้บ้าน

          ซึ่งตลาดคนสูงวัยไม่ใช่เล็กๆ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่างได้อานิสงส์ไปด้วย ทั้งคนรับจ้างดูแลรายวันรายเดือน ซึ่งสูงไม่แพ้มนุษย์เงินเดือน กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ ที่มีการปรับรูปแบบดีไซน์รองรับตลาดกลุ่มนี้ รวมถึงโรงพยาบาล

          นอกจากนี้ยังมี บริษัทเอกชนอีกหลายราย กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ทั้งนี้จากการสัมภาษณ์ นพ. สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH ที่ระบุว่าปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งมีตัวเลขสูงขึ้นทุกปีส่งผลให้บริษัทพัฒนาที่ดินต้องปรับแผนรองรับ สำหรับบริษัท ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารูปแบบบ้านผู้สูงอายุ ที่เหมาะสมในอนาคต ว่าจะเน้นรูปแบบคอนโดมิเนียมขายขาด หรือ เช่าซื้อระยะยาว โดยจะนำที่ดินซึ่งเป็นแลนด์แบงก์เก่า ออกพัฒนา ย่านลำลูกกาคลองหก

          แต่ทั้งนี้ ในสเต็ปแรกมีการปรับแบบบ้านเพื่อรองรับผู้สูงอายุ เนื่องจากการซื้อบ้านแต่ละหลังต้องใช้เป็นที่อยู่อาศัยระยะยาว เมื่อสูงวัยมากขึ้น ต้องสามารถอยู่ภายในบ้านหลังนั้นได้อย่างเป็นสุขดังนั้นจึงออกแบบให้สามารถปรับการใช้พื้นที่ได้ทุกระดับอายุจนถึงวัยชราสำหรับสเต็ปที่ 2 คือการปรับโครงการเก่าแม้จะขายไปแล้วก็ตาม แต่บริษัทจะออกแบบรองรับไว้ให้ลูกค้าหากต้องการ ปรับแบบดัดแปลงใหม่ในอนาคต สำหรับผู้สูงอายุ เช่น พ่อแม่อายุตั้งแต่ 60-80 ปี

          อย่างไรก็ตามนอกจากบริษัทพัฒนาที่ดินเริ่มปรับตัว เพิ่มพื้นที่ สำหรับคนวัยนี้มากขึ้น เพราะเป็นตลาดใหญ่ กำลังซื้อสูง สำหรับ ธุรกิจ เนิร์สซิ่งโฮม ซึ่งเป็น บ้านสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ปัจจุบันมีเอกชนเปิด เฉลี่ยประมาณ 10-20 เตียงเช่นเดียวกับหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเห็นความสำคัญ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โรงพยาบาลของรัฐ ขณะโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งปรับตัวหมดแล้วที่จะมีส่วนบริการ สำหรับคนกลุ่มนี้

          สำหรับมุมสะท้อน ของ นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออลล์อินสไปร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ยอมรับว่า แนวโน้มในอีก 4-5 ปีข้างหน้า จะมีผู้สูงอายุเกิดขึ้นจำนวนมาก และจะเป็นตลาดค่อนข้างใหญ่สำหรับ บริษัทพัฒนาที่ดิน สถานพยาบาลและธุรกิจเกี่ยวเนื่องซึ่งหากเวลานั้นใกล้เข้ามา บริษัทต้องปรับเข้าไปลุยตลาดกลุ่มนี้แน่นอน
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ