คอนโดฯแพงขายฝืด
Loading

คอนโดฯแพงขายฝืด

วันที่ : 31 มกราคม 2562
ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2562 ถูกตอกย้ำต่อเนื่อง ว่าแม้แนวโน้มภาพรวมจะยังคงเติบโตได้ แต่จะอยู่ในอัตราที่ลดลงน่ากังวล และมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะตลาดหลักคอนโดฯเนื่องด้วยการแข่งขันสูง- ซัพพลายคงค้างมาก-ดีมานด์นักลงทุนไม่แน่นอน-ต้นทุนสูง และรับรู้รายได้ช้า แต่อย่างไรก็ตาม 2 บริษัทแอสเซทไวส์ และ ออริจิ้น มั่นใจตลาดยังไปได้ต่อ
          ป้อนจองถูกกระชากตลาดซื้ออยู่จริง

          2 บิ๊กอสังหาฯทำนายปี 62 คอนโดฯราคาแพงเริ่มฝืด เดินหน้าลุยของถูกป้อนตลาด แม้สงครามการค้าเป็นตัวรั้ง กลับกัน การเลือกตั้งช่วยกระตุ้นความมั่นใจ

          ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2562 ถูกตอกย้ำต่อเนื่อง ว่าแม้แนวโน้มภาพรวมจะยังคงเติบโตได้ แต่จะอยู่ในอัตราที่ลดลงน่ากังวล และมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะตลาดหลักคอนโดฯเนื่องด้วยการแข่งขันสูง- ซัพพลายคงค้างมาก-ดีมานด์นักลงทุนไม่แน่นอน-ต้นทุนสูง และรับรู้รายได้ช้า แต่อย่างไรก็ตาม 2 บริษัทแอสเซทไวส์ และ ออริจิ้น มั่นใจตลาดยังไปได้ต่อ

          นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า หลังจากปี 2561 ประสบความสำเร็จ สามารถทำยอดขายได้เติบโตถึง 46% จากปีก่อน

          โดยสร้างรายได้กระจายต่อเนื่อง และช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้กับบริษัท ขณะที่ปี 2562 เชื่อว่าจะเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับบริษัทและตลาดที่อยู่อาศัยในภาพรวม เนื่องจากมีความกังวลหลักจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมเป็นตัวฉุด แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางการเมือง การประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จะช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ให้มีความคึกคักขึ้น เพราะรายได้ของคนกลุ่มกลาง-ล่าง ซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ จะกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้น

          พร้อมมองว่าตลาดแนวสูง หรือคอนโดมิเนียมยังคงเป็นที่ต้องการของผู้ซื้อ เพราะถือเป็นปัจจัย 4 ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับคนเมือง ในขณะที่เมืองกำลังขยายจากโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ โดยเฉพาะในกลุ่มราคาไม่แพงมากนัก อยู่ในทำเลแหล่งงาน และตามแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นดีมานด์ซื้ออยู่จริง มีความเสี่ยงต่ำกว่า ทำเลใจกลางเมืองราคาสูง และเป็นที่จับจ้องของกลุ่มเก็งกำไร เสี่ยงไม่โอน จึงมีแผนเปิดโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่ารวม 8.8 พันล้านบาท มุ่งเน้นโครงการแนวสูง 5 โครงการรวม 4,000 หน่วย มูลค่า 7.4 พันล้านบาท จับกลุ่มราคา เฉลี่ย 6.5 -7 หมื่นบาทต่อตร.ม. เช่น โครงการ แอทโมซ แจ้งวัฒนะ, เคฟ ทาวน์ รังสิต, บราวน์ ลาด พร้าว เป็นต้น ที่เหลือเป็นแนวราบ โครงการทาวน์เฮาส์ อีก 2 โครงการ ราคา 7-12 ล้านบาท ภาพรวมโครงการทั้งหมด เจาะลูกค้ากลุ่มซื้ออยู่จริงในทำเลแหล่งงานในเมือง และลูกค้านักลงทุนที่มีกลุ่มผู้เช่าชัดเจนในทำเลชานเมือง ทั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายตลอดทั้งปี 7.3 พันล้านบาท ยอดรับรู้รายได้จากโครงการที่จะแล้วเสร็จปีนี้ จำนวน 4.2 พันล้านบาท

          ด้าน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถทำยอดขายรวมของปี 2561 ได้มากกว่า 2.75 หมื่นล้านบาท สูงสุดอันดับต้นๆ ของตลาด โดยนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ ท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้น และความเปลี่ยนแปลงหลากหลายของตลาดที่อยู่อาศัย ในช่วงปี 2562 นั้น บริษัทตั้งเป้าจะเปิดโครงการอสังหาฯ เพื่อขาย มูลค่าโครงการรวมกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท จำนวน 15 โครงการ โดยสัดส่วน 23% เป็นกลุ่มแนวราบ ครอบคลุม ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว-แฝด และบ้านราคาแพง

          ขณะที่สัดส่วน 77% ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของบริษัท คือการพัฒนาโครงการคอนโดฯจำนวน 10 โครงการ มูลค่ารวม 2 หมื่นล้านบาท เจาะทั้งกลุ่มราคาถูกและแพง ภายใต้แบรนด์ พาร์คออริจิ้น 3 โครงการ ในทำเลราชเทวี พระราม 4 และในซีบีดีอีก 1 โครงการ ขณะเดียวกันที่สำคัญเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ในราคาไม่สูง เฉลี่ยแค่ 7 หมื่นบาทต่อตร.ม. หรือ 1.6-2.4 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ดิ ออริจิ้น อีก 7 โครงการ ทำเล สุขุมวิท รัชดาฯ ลาดพร้าว เป็นต้น ส่วนอีก 1 โครงการเป็นโครงการมิกซ์ยูส คาดปีนี้ตลาดนักลงทุน-เก็งกำไรจะทรงตัว จากราคาเปิดตัวของโครงการใจกลางเมืองที่มีราคาสูงต่อเนื่อง บริษัทจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์และโปรดักต์ให้สอดคล้องกับภาวะตลาด
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ