เปิดกรุที่ดินทำเลทองกรุงเทพรอบนอกราคาพุ่ง กรุงเทพรอบนอกราคาพุ่ง
วันที่ : 24 มกราคม 2562
การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ "ที่ดิน" ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ เพราะหากได้ "ทำเลทอง" ที่ใช่ โดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ออกแบบโปรดักท์จะบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ตรงความต้องการตลาด โอกาสที่จะกวาดยอดขายย่อมมีมากขึ้น
การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ "ที่ดิน" ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการ เพราะหากได้ "ทำเลทอง" ที่ใช่ โดนใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ออกแบบโปรดักท์จะบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม ตรงความต้องการตลาด โอกาสที่จะกวาดยอดขายย่อมมีมากขึ้น
ทว่า หลายปีที่ผ่านมา จำนวนที่ดินแปลงสวยหากยากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นตัวแปรที่ดัน "ราคาที่ดิน" ให้พุ่งสูง แต่ผู้บรรดานักพัฒนาอสังหาฯหรือดีเวลลอปเปอร์ ยังซื้อขายกันที่ดินทุบสถิติราคาแพง สะท้อน "ดีมานด์" ยังมีอยู่ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล รวม 6 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม กำหนดให้ปี 2555 เป็นปีฐาน และจัดทำดัชนีเป็นรายไตรมาส
ในการศึกษาจะใช้ข้อมูลการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเปล่าของกรมที่ดิน โดยจะคัดเลือกเฉพาะที่ดินเปล่าไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง ที่มีขนาดที่ดินตั้งแต่ 200 ตารางวาขึ้นไป และจะใช้ข้อมูลเฉพาะการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ผู้โอนหรือผู้รับโอนที่เป็น "นิติบุคคล"เท่านั้น เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นราคาซื้อขายจริง ซึ่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายหรือรายได้ให้ ถูกต้องเพื่อสามารถคำนวณภาษีและค่าใช้จ่าย ในแต่ละปี
วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลการจัดทำดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาใน พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2561 มีค่าดัชนีเท่ากับ 223.2 จุด เพิ่มขึ้น 1.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 219.2 จุด และปรับเพิ่มขึ้น 32.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 168.3 จุด
สาเหตุดัชนีราคาที่ดินเปล่าปรับเพิ่มขึ้น มาจากทำเลของดินที่อยู่ใกล้แนวเส้นทางการ2.ก่อสร้างรถไฟฟ้า โดยเฉพาะส่วนต่อขยายสายสีเขียว (ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ) เพราะมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้ 3. บริการไปหมาดๆเมื่อ 6 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา
ส่วน 5 ทำเลทองที่ราคาที่ดินเปล่าก่อนพัฒนาพุ่งขึ้นแรงสุดในไตรมาส 4 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นดังนี้ 1.ทำเลเขตพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ การปรับของราคาเพิ่มมากสุด 61.8% ตามด้วย 2.ทำเลจังหวัดสมุทรสาคร ปรับราคาเพิ่มขึ้น 56.1% โดยส่วนใหญ่ทำเลที่ปรับเพิ่มขึ้นจะอยู่ในบริเวณ อำเภอเมือง และอ.กระทุ่มแบน 3. ทำเลเขตราษฎร์บูรณะ-บางขุนเทียน- ทุ่งครุ-บางบอน-จอมทอง มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 55.24%) ทำเลจังหวัดนครปฐม มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 55.1% ทำเลฮอตราคาขึ้นแรงส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณ อ.กำแพงแสน อำเภอเมือง และอ.สามพราน และ 5.ทำเลบางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 49.8% อำเภอเมือง และอ.สามพราน และ 5.ทำเลบางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อยมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 49.8%
จากทำเล 5 อันดับแรก ยังสะท้อนให้เห็นแนวโน้มความต้องการที่ดินเพื่อ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยขยายตัวไปในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล และชานเมืองมากขึ้นด้วย เพราะต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งทำเลทองใจกลางกรุง กรุงเทพชั้นในหายากมากขึ้น
นอกจากนี้ หากพิจารณาแยกตาม ทำเลเฉพาะที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน จะพบว่า 5 อันดับแรก ราคาที่ดินปรับราคา เพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ 1.สายสีเขียว (แบริ่ง -สมุทรปราการ) พุ่งขึ้น 44.6% จากการ ก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จและเปิดให้บริการถึง 9 สถานี ได้แก่ สถานีสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ช้างเอราวัณ โรงเรียนนายเรือ ปากน้ำ ศรีนครินทร์ แพรกษา สายลวด และเคหะสมุทรปราการ "การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ส่งผลให้ราคาที่ดินในแนวรถไฟฟ้าปรับสูงขึ้นมาก ส่วนสายสีเขียวช่วงสมุทรปราการ-บางปู ซึ่งเป็นโครงการ ในอนาคต ยังไม่เริ่มก่อสร้าง ราคาที่ดินก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันในอัตรา 44.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นตามช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการนั่นเอง
ตามด้วย 2.สายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชันศาลายา) มีปรับราคาเพิ่มขึ้น 40.1% 3.สายสีน้ำเงิน (บางแค-สาย 4) มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 35.8% 4.ที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 34.3% และ 5.สายสีแดงเข้ม (หัวลำโพง-มหาชัย) มีปรับราคาเพิ่มขึ้น 30.2 %
ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2561 มีค่าดัชนีเท่ากับ 223.2 จุด เพิ่มขึ้น 1.8% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า