นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(คณะกรรมการ PPP )ที่มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่าที่ประชุมเห็นชอบในหลักการโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์มีนบุรี(สุวินทวงศ์)ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)มูลค่า 235,320 ล้านบาท โดยให้อยู่ภายใต้มาตรการ PPP Fast Track รูปแบบลงทุน PPP Net Cost ภาครัฐลงทุนค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนตะวันตกส่วนภาคเอกชนลงทุนค่างานโยธาโครงการส่วนตะวันตกและค่างานระบบรถไฟฟ้าขบวนรถไฟฟ้าบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทางระยะเวลาเดินรถ 30 ปี เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางของผู้โดยสารชานเมืองฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกและบรรเทาการจราจรแออัดภายในเมือง

          "เอกชนจะเก็บค่าโดยสารรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดำเนินงานทั้งหมด โดยภาครัฐไม่มีภาระสนับสนุนทางการเงินให้ภาคเอกชนในส่วนงานระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้าและงานเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาตลอดทั้งเส้นทาง"

          นอกจากนี้ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและเจ้าของโครงการเร่งขับเคลื่อนโครงการ PPP Fast Track ให้เป็นไปตามกรอบเวลา โดยรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ช่วงเตาปูนวงแหวนกาญจนาภิเษก มูลค่า 128,235 ล้านบาท จะเสนอคณะกรรมการ PPP ต้นปี 62 ส่วนโครงการการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมตามเส้นทางโครงข่ายรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยมูลค่า 4,235 ล้านบาท

          ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังรักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)กล่าวภายหลังจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นตอบข้อซักถามการประมูลโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ว่าจากการสอบถามภาคเอกชนถึงสาเหตุที่ไม่ยื่นซองประมูลโครงการ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมาได้รับคำตอบว่าไม่เข้าใจรายละเอียดการคำนวณต้นทุนภาษีโรงเรือนและเงื่อนไขในเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)เข้มงวดไป ซึ่งคงต้องปรับแก้ทีโออาร์บางส่วน เพื่อคลายความกังวลนักลงทุนและจะเปิดประมูลรอบใหม่เร็วๆนี้