BSM รุกโครงการอสังหาฯเต็มสูบ มั่นใจดันรายได้ทั้งปีทะลุ 1 พันล้าน
Loading

BSM รุกโครงการอสังหาฯเต็มสูบ มั่นใจดันรายได้ทั้งปีทะลุ 1 พันล้าน

วันที่ : 19 มกราคม 2562
BSM โชว์แผนธุรกิจปี 62 วางเป้ารายได้พุ่งทะลุ 1 พันล้าน จากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ ยึดทำเลย่านธุรกิจ เปิดโครงการใหม่ทุกไตรมาส พร้อมประเมินภาพรวมของตลาดอสังหาฯ คาดการขายและการโอนในช่วงต้นปีคึกคักมากเป็นพิเศษ มีการเร่งโอนก่อนมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน มีผลบังคับใช้
         BSM โชว์แผนธุรกิจปี 62 วางเป้ารายได้พุ่งทะลุ 1 พันล้าน จากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ ยึดทำเลย่านธุรกิจ เปิดโครงการใหม่ทุกไตรมาส พร้อมประเมินภาพรวมของตลาดอสังหาฯ คาดการขายและการโอนในช่วงต้นปีคึกคักมากเป็นพิเศษ มีการเร่งโอนก่อนมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน มีผลบังคับใช้

          นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโตเกิน 1,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่ารายได้จากวัสดุก่อสร้างยังจะสามารถเติบโตได้อีก เช่น กลุ่มงานออฟฟิศ คอนโดมิเนียม โรงแรม และโรงพยาบาล ประกอบกับจะมีการออกสินค้าใหม่ 2 ตัว ได้แก่ ระบบผนังสำหรับงานคอนโดมิเนียม และประตูบานเลื่อนแบบพับเก็บได้ โดยคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ แบ่งเป็นจากธุรกิจหลักธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างคุณภาพสูง 70% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 30%

          ขณะที่รายได้รวมปี 2561 คาด ว่าจะอยู่ที่ประมาณ 640 ล้านบาทเติบโต 7% จากปี 2560 ที่อยู่ที่ 599.84 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีการรับรู้รายได้จากอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรสุทธิต้องรอสรุปตัวเลขอีกครั้ง แต่น่าจะเพิ่มขึ้นเป็นอัตราส่วนที่มากกว่าการเติบโตของรายได้ เนื่องจากการขายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัท ส่งผลให้ มีกำไรขั้นต้นที่ดี ประกอบกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ขึ้น ซึ่งในช่วงไตรมาส 3/61 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.88 ล้านบาท

          ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียม Low rise ภายใต้แบรนด์ The Teak ในปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 2562 และได้วางแผนที่จะเปิดขายโครงการใหม่ (Pre sale) โดยเฉลี่ยไตรมาสละ 1 โครงการ ซึ่งแต่ละโครง การจะมีมูลค่าประมาณ 350-400 ล้านบาท โดยจะเน้นทำเลย่านศูนย์ กลางธุรกิจเป็นหลัก ซึ่งจะมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร

          ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่จำนวน 5 โครงการ ซึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Teak Sukhumvit 39 และ โครงการ The Teak Sathon Lumpini โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการ จะเน้นใน 3 ทำเลหลัก ได้แก่ รัชดา 19 อารีย์ และนางลิ้นจี่ ซึ่งโครงการในทำเลดังกล่าวจะเริ่มทยอยเปิดขายตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป โดยบริษัทได้มีการวางงบลงทุนอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อซื้อที่ดินในทำเลย่านใจกลางธุรกิจ ใกล้รถไฟฟ้าสายหลัก เพื่อให้บริษัทมีการพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

          สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 มองว่าการขายและการโอนในช่วงต้นปีตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะจะมีการเร่งโอนก่อนมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน (LTV) ซึ่งจะบังคับใช้ในเดือนเมษายน และเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท ซึ่งมีโครงการ The Teak Sukhumvit 39 ที่พร้อมจะรับรู้รายได้ในต้นปี 2562
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ