แลนด์ซุ่มขึ้นคอนโด4แท่งรับรัฐสภาใหม่
Loading

แลนด์ซุ่มขึ้นคอนโด4แท่งรับรัฐสภาใหม่

วันที่ : 21 มกราคม 2562
เปิดแผนปีหมูค่ายแลนด์ฯ ตั้งเป้า 3.3 หมื่นล้าน ขอโต 10% ลุยหนักแนวราบ ชี้อสังหาฯ ขาลง เผย "ขายโครงการที่สหรัฐ-โฮมโปร-คิวเฮ้าส์" ทำกำไร จ่อขายโรงแรมเข้ากองทุน REIT ออกหุ้นกู้อีกหมื่นล้าน ซุ่มซื้อที่โรงไม้เก่าย่านสามเสน ขึ้นคอนโดฯแนวใหม่ 4 แท่ง ริมเจ้าพระยา รับรัฐสภาใหม่ เจาะลูกค้าราชการ
          เปิดแผนปีหมูค่ายแลนด์ฯ ตั้งเป้า 3.3 หมื่นล้าน ขอโต 10% ลุยหนักแนวราบ ชี้อสังหาฯ ขาลง เผย "ขายโครงการที่สหรัฐ-โฮมโปร-คิวเฮ้าส์" ทำกำไร จ่อขายโรงแรมเข้ากองทุน REIT ออกหุ้นกู้อีกหมื่นล้าน ซุ่มซื้อที่โรงไม้เก่าย่านสามเสน ขึ้นคอนโดฯแนวใหม่ 4 แท่ง ริมเจ้าพระยา รับรัฐสภาใหม่ เจาะลูกค้าราชการ

          ปีละครั้งสำหรับงานแถลงทิศทางนโยบาย โดย 2 ซีอีโอ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการ บริหาร และนายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ ซึ่งมีนัยน่าสนใจ

          ปรับตัวตามตลาด

          นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว สถาบันการเงินเริ่มรอบคอบมากขึ้น ทั้งการ ปล่อยสินเชื่อโครงการและสินเชื่อ กู้ซื้อบ้าน ที่สำคัญ ทุกคนเห็นแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้นด้วย

          ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือตลาดจะอยู่ในช่วงปรับตัว แลนด์ฯก็เช่นกัน ต้องเน้นทำในสิ่งที่ถนัด แล้วโฟกัสกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนในแต่ละทำเล

          "พร้อมกลับมาดูเรื่องประสิทธิภาพกับการทำงาน ภายใต้การวิเคราะห์ข้อมูล ของดาต้าเบสทั้งหมด เพื่อปรับให้เข้ากับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้"

          เช่น ชะลอการพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในปี 2562 เนื่องจากซัพพลายในตลาดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีจำนวนมาก โดยเฉพาะโครงการร่วมทุน (JV : joint venture) และจากมาตรการ LTV ของธนาคาร แห่งประเทศไทย ซึ่งกระทบกับสินค้าคอนโดฯพอสมควรจึงขอดูทิศทางตลาดก่อน

          "แต่เราเตรียมการเตรียมแบบไว้แล้ว เพื่อยื่นขอ EIA ถ้าทุกอย่างลงตัว เราก็พร้อมจะเปิดตัว ต้องดูจังหวะของตลาด"

          ลุยหนักแนวราบ

          แผนการดำเนินงานของแลนด์ฯปี 2562 ตั้งเป้ายอดขาย (booking) 33,000 ล้านบาท ยอดโอนกรรมสิทธิ์ 32,000 ล้านบาท รายได้ค่าเช่าจากธุรกิจอสังหาฯให้เช่า 5,000 ล้านบาท คาดรายได้รวมจะโตขึ้น 10%

          ปีนี้รายได้มาจาก 3 ส่วนคือ 1.จากการขายที่อยู่อาศัย 32,000 ล้านบาท 2.รายได้จากค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ที่อเมริกา+ โรงแรม+ห้างสรรพสินค้า 5,000 ล้านบาท 3.ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ (ควอลิตี้เฮ้าส์, โฮมโปร, คิวคอน) 3,700 ล้านบาท

          ปัจจุบันแลนด์ฯมีโครงการที่เปิดดำเนินการอยู่ทั้งสิ้น 70 โครงการ แยกเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑล 42 โครงการ ต่างจังหวัด 28 โครงการ โดยมีมูลค่าโครงการเหลือขาย 56,000 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ 10,000 ล้านบาท

          มีแผนเปิด 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 29,960 ล้านบาท แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล 14 โครงการ ต่างจังหวัด 2 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 11 โครงการ (บ้านแฝด นับรวมเป็นบ้านเดี่ยว) ทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ ราคาเฉลี่ยต่อยูนิตอยู่ที่ 7.3 ล้านบาท

          สัดส่วนของยอดขายแบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 72% ทาวน์เฮาส์ 8% คอนโดฯ 20% แบ่งตามระดับราคา ต่ำกว่า 4 ล้านบาท 17%, 4.01-6 ล้านบาท 17%, 6.01-10 ล้านบาท 19%, 10.01-25 ล้านบาท 27% และมากกว่า 25 ล้านบาท 20%

          ซุ่มเปิดคอนโดฯ 4 แท่ง

          แหล่งข่าวใน บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ล่าสุดแลนด์ฯกำลังรวบรวมโฉนดที่ดิน เพื่อรวมเป็นแปลงใหญ่ในย่านสามเสน อยู่ติดแม่น้ำ เจ้าพระยา โดยซื้อที่จากโรงเลื่อยเก่าที่ทำเฟอร์นิเจอร์ไม้ ใกล้โรงเรียนราชินีบนและแยกเขียวไข่กา อยู่เยื้อง ๆ กับศูนย์การค้าสุพรีม คอมเพล็กซ์ เพื่อพัฒนา เป็นคอนโดมิเนียมแนวใหม่ 4 ทาวเวอร์ที่เชื่อมถึงกัน สูง 40-50 ชั้น รวม 1,500 ยูนิต ภายใต้ไทม์ไลน์ 3 ปี

          "ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำประเมินผลสิ่งแวดล้อมหรือ EIA คาดว่าจะใช้เวลารื้อถอน 4 เดือน ก่อสร้างอีก 36 เดือน เมื่อโครงการแล้วเสร็จก็พอดีจังหวะตลาดคอนโดฯคงกลับมาบูมใหม่ หลังจากซัพพลายในตลาดปัจจุบันถูกดูดซับช่วง 1-2 ปีนี้"

          โครงการใหญ่ดังกล่าว ถือเป็นการแตกทำเลและแตกกลุ่มเป้าหมายจากที่แลนด์ฯ เคยทำ เพราะเป็นการพัฒนาในย่านเมืองเก่า ล้อมรอบด้วยถนน 4 สายสำคัญ ได้แก่ ถนนสามเสน ถนนนครไชยศรี ถนนอำนวยสงคราม และถนนร่วมจิตต์ ทั้งเป็นศูนย์รวมหน่วยงานการศึกษา อาทิ โรงเรียนราชินีบน โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และหน่วยงาน ราชการ อาทิ กรมชลประทาน รัฐสภาแห่งใหม่แยกเกียกกาย ทั้งอยู่ใกล้โรงงานออฟฟิศของกลุ่มบุญรอดฯ

          โดยจะพัฒนาภายใต้แบรนด์ The Room มุ่งเจาะลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน เน้นจุดขายทำเลใจกลางเมือง ติดแม่น้ำเจ้าพระยา

          บ้านเดี่ยวขายดี

          นายนพรกล่าวว่า การดำเนินงานของ แลนด์ฯ ปี 2561 มีสัดส่วนบ้านเดี่ยว 71%, ทาวน์เฮาส์ 12%, คอนโดฯ 17% แยกตามราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท 1%, 2-4 ล้านบาท 15%, 4.01-6 ล้านบาท 20%, 6.01-10 ล้านบาท 18%, 10.01-25 ล้านบาท 25% และมากกว่า 25 ล้านบาท 21%

          พัฒนาทั้งสิ้น 68 โครงการ อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 40 โครงการ ต่างจังหวัด 28 โครงการ รวมโครงการที่เปิดใหม่ระหว่างปี 12 โครงการ มูลค่ารวม 23,110 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ, ทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ และคอนโดฯ 4 โครงการ

          มีส่วนแบ่งการตลาดตามจำนวนหลังในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ยอดรวมสะสมตั้งแต่ ม.ค.-พ.ย. 2561 บ้านเดี่ยว 10.6%, บ้านแฝด 13.7%, ทาวน์เฮาส์ 3.5% และคอนโดฯ 1.2%

          จัดตั้งกอง REIT

          นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยถึงฐานะการเงิน ณ สิ้นปี 2561 ว่า แลนด์ฯและบริษัทย่อยมีหนี้เงินกู้สุทธิ 43,000 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 86% มีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ย 2.46%

          ปี 2562 ได้เตรียมงบฯลงทุน 10,000 ล้านบาท แยกเป็นการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย 7,000 ล้านบาท อีก 3,000 ล้านบาทเป็นงบฯลงทุนเพื่อการให้เช่าอสังหาฯ ขณะที่ปีที่แล้วงบฯจัดซื้อที่ดินอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท

          "ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ขาย The Domain Residence อพาร์ตเมนต์ในรัฐแคลิฟอร์เนียในราคา 140 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 4,480 ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษี 1,317 ล้านบาท (41.17 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งปี 2562 มีแผนจะขายโรงแรมอีก 1 แห่งเข้ากอง REIT และจะออกหุ้นกู้อีก 12,000 ล้านบาท คาดว่า ปีนี้หนี้สินต่อทุนคงใกล้เคียงปีที่แล้ว"

          ปีนี้อสังหาฯขาลง

          ก่อนหน้านี้ นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ก่อตั้งบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) และผู้ก่อตั้งหลักสูตร The NEXT Real ฟันธงว่า ตลาดอสังหาฯ ปี 62 ถึงยุคขาลง แต่ไม่รุนแรง

          ปัญหาใหญ่คือด้านการเงิน แบงก์เข้ม ปล่อยกู้ทั้งโครงการและรายย่อย ส่วน ผู้ประกอบการรายกลางรายเล็กจะเหนื่อยและเข้าตลาดยากขึ้น แนะให้บริหารสภาพคล่อง

          "วินัยการเงินของคนไทยยังไม่ดีพอ ไม่ออมเงินก่อนซื้อบ้าน เพราะเคยกู้เงินได้เต็มจำนวน บางรายสูงกว่าราคาบ้าน เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว การเงินตึงตัวก็กลายเป็นหนี้เสีย เมื่อมีปัญหาควรรีบปรึกษาธนาคารเจ้าหนี้ เพื่อหาทางแก้ปัญหา ร่วมกัน เชื่อว่าธนาคารพร้อมช่วยเหลือ เพราะไม่ต้องการให้เกิดหนี้เอ็นพีแอล แบงก์พร้อมช่วยอยู่แล้ว เพราะมีเงินเหลือเยอะ"

          "ในทุก ๆ 8-10 ปี ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว ซึ่งปี 2562 จะชะลอตัวจากหลายปัจจัย เราต้องตระหนัก แต่ไม่ต้องตระหนก เพราะสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นวัฏจักร ผู้ประกอบการต้องปรับตัว จะพลิกเกมอย่างไรให้อยู่รอด"
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ