CMCลุยลูกบ้านหลังแรกอัดแคมเปญกระตุ้นยอด
Loading

CMCลุยลูกบ้านหลังแรกอัดแคมเปญกระตุ้นยอด

วันที่ : 16 มกราคม 2562
CMC ชี้นโยบาย LTV ไม่กระทบผลการดำเนินงาน มั่นใจลูกค้าส่วนใหญ่กลุ่มคนซื้อบ้านหลังแรก ราคาเฉลี่ย 2-4 ล้านบาท แย้มโค้ง 1/2562 เปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท พร้อมเดินเกมรุกอัดแคมเปญส่งเสริมการขาย หวังกระตุ้นยอดขายปี 2562 เข้าเป้า 8 พันล้านบาท
          CMC ชี้นโยบาย LTV ไม่กระทบผลการดำเนินงาน มั่นใจลูกค้าส่วนใหญ่กลุ่มคนซื้อบ้านหลังแรก ราคาเฉลี่ย 2-4 ล้านบาท แย้มโค้ง 1/2562 เปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท พร้อมเดินเกมรุกอัดแคมเปญส่งเสริมการขาย หวังกระตุ้นยอดขายปี 2562 เข้าเป้า 8 พันล้านบาท

          นพ.วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC เปิดเผยว่า กรณีเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ หรืออัตราส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ใหม่ของทางธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไปนั้น เบื้องต้นประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่พักอาศัยเพื่ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังแรก ที่มีราคาขายส่วนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2-4 ล้านบาท

          ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2562 บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการใหม่ คือ โครงการ Cuvee มูลค่า 1,516 ล้านบาท เป็นอาคาร 33 ชั้น จำนวน 422 ยูนิต เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับกลางถึงสูงที่เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นหลัก คาดว่าจะเข้ามาช่วยผลักดันให้ยอดขายในปีนี้มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในปีนี้เพิ่มเติม

          ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2562 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย (Presale) ไว้ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,589 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการที่เตรียมก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ CT Ratchada 36-2, Kasa Deva Phase 2 โครงการที่เตรียมจะเปิดขาย ทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ Cuvee Tiwanon, Cybiq @Ram Campus 1 และ The Clev Wongsawang เป็นต้น

          รวมทั้งยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างขอการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ BH Suksawat 2, CT Kaset Campus และ CT @Sena Station ขณะที่โครงการที่ EIA อนุมัติแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ BH Nawamin-Sriburapha และ BH Lite @ Bangna36 เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดโครงการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ประมาณ 5 โครงการ อย่างไรก็ดีจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2562 กว่า 10 โครงการ ทำให้มองว่าจะผลักดันให้โครงการที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในปี 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาท

          โดยแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ และเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ 1 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือต้องรอพิจารณาสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลังก่อน ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าหมายยอดโอนในปี 2562 จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 50-60% หรือประมาณ 3,000-3,300 ล้านบาท จากปี 2561 ที่คาดว่ายอดโอนจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า 2,000 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทยังมีสินค้าพร้อมขายในมือ (Stock) อีกกว่า 25 โครงการ เป็นมูลค่ามากกว่า 3,614 ล้านบาท

          นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายรอการโอนกรรมสิทธิ์ในมือ (Backlog) อีกกว่า 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่คาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในปีนี้ ซึ่งจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาส่งผลให้บริษัทมองว่าจะช่วยผลักดันให้การเติบโตของรายได้รวมในปี 2562 จะไม่น้อยกว่า 10%
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ