มูลค่าตลาดแตะ5หมื่นล้านมุ่งกลุ่มลูกค้าเฉพาะสร้างแบรนด์ออนไลน์

          อยุธยา สร้างบ้าน คาดธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2562 โต 5-10% พร้อมลุยสร้างแบรนด์-ส่งโปรดักต์ใหม่บ้านสไตล์รีสอร์ท

          นายธีร์ บุญวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา สร้างบ้าน เปิดเผยว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2562  คาดว่าตลาดมีการเติบโตแต่ไม่มาก โดยแต่ละปีตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านจะมีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาท คาดว่าบริษัทที่สังกัดสมาคมจะเติบโตขึ้น 5-10% มีส่วนแบ่งในตลาด 25-30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 20% ของมูลค่าตลาดรวม

          ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการเร่งสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจทำให้ผู้บริโภคหันมาสร้างบ้านกับบริษัทในสมาคมเพิ่มมากขึ้น ขณะที่เรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น เชื่อว่ากระทบผู้บริโภคกลุ่มสร้างเองไม่มากนักเพราะกลุ่มนี้ขอสินเชื่อบ้านราว 50% และส่วนใหญ่จะกู้ไม่เต็ม 100%

          สำหรับแผนงานของบริษัท ยังคงเน้นตลาดรับสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ท โดยจะสร้างแบรนด์เอวายบี รีสอร์ท เฮาส์ให้ชัดเจน วางคอนเซ็ปต์ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของอาคารปลูกสร้างแต่จะต้องมีชีวิตชีวามีเอกลักษณ์เฉพาะอีกด้วย โดยจะร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ด้านสวนมาร่วมสร้างมิติความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และจะออกแบบบ้านใหม่อีก 1 ซีรี่ส์ มี 5-6 แบบ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 400 ตารางเมตรขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาทขึ้นไป เพิ่มจากปัจจุบันมี 80 แบบ

          นอกจากนี้ จะมีการพัฒนาโปรแกรมเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมออกแบบและสามารถเลือกวัสดุได้ตามความต้องการการใช้งานจริงจากเดิมที่กำหนดเป็นแพ็กเกจ ตามระดับราคา เนื่องจากเห็นว่า แต่ละห้องของบ้านสามารถเลือกวัสดุให้เหมาะสม กับการใช้งานไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าพรีเมียมทั้งหมดแต่เป็นการผสมผสานได้เช่นกัน ตั้งเป้ายอดขายปี 2562 ไว้ที่ 185 ล้านบาท

          ขณะเดียวกัน มีแผนจะขยายตลาดในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทจะรับงานก่อสร้างรัศมีราว 100 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ เพราะต้องการคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้ได้มาตรฐาน แต่จากนี้จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายพื้นที่รับงานเพิ่มขึ้นเน้นจังหวัดหัวเมืองที่มีศักยภาพการเติบโต ตามกำลังซื้อตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยรูปแบบความร่วมมืออาจมีการตั้งบริษัทใหม่แบรนด์ใหม่สำหรับดำเนินการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 2563

          ด้านกลยุทธ์การทำตลาดนั้น จะมุ่งทำตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายซึ่งจะ เป็นกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ กลุ่มอาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ นักลงทุน ที่รูปแบบบ้านจะเน้นไปที่ฟังก์ชั่นและสไตล์ พร้อมทั้งวางงบการตลาดไว้ที่ 2% ของยอดขายเพื่อทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์

          "การทำตลาดออนไลน์จะมุ่งสร้างการรับรู้เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่ง ซึ่งพบว่ากว่า 70% ที่รู้บริษัทมาจากโซเชียลมีเดียและในจำนวนนี้ 30-40% มีความต้องการสร้างบ้านจริง ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามหน้าเพจของ เอวายบี รีสอร์ท เฮาส์ ในเฟซบุ๊ก มีมากกว่า 1.2 แสนราย" นายธีร์กล่าว

          พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่มากยิ่งขึ้นลดความผิดพลาด บริษัทได้ใช้โปรแกรม BUILK เพื่อจัดการต้นทุน 5 ประเภท ได้แก่ ค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าเครื่องจักร ผู้รับเหมาช่วงและค่าดำเนินการ รวมทั้งใช้แอพพลิเคชั่น AIM ซึ่งเฟสต่อไปจะมีใช้เทคโนโลยี BIM ในกระบวนการออกแบบและก่อสร้างเพื่อลดต้นทุน