LALINโชว์ยอดขายเกิน4พันล้าน เตรียมแถลงแผนธุรกิจปี 62 วันที่ 7 ม.ค.นี้
Loading

LALINโชว์ยอดขายเกิน4พันล้าน เตรียมแถลงแผนธุรกิจปี 62 วันที่ 7 ม.ค.นี้

วันที่ : 2 มกราคม 2562
LALIN เผยยอดขายล่าสุดมากกว่า 4,000 ล้านบาท มั่นใจทั้งปี 61 มาตามนัด 4,400 ล้านบาท หลังเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 4,000 ล้านบาท เตรียมแถลงแผนธุรกิจและการเปิดโครงการใหม่ปี 62 ในวันที่ 7 ม.ค. 62 นี้
          LALIN เผยยอดขายล่าสุดมากกว่า 4,000 ล้านบาท มั่นใจทั้งปี 61 มาตามนัด 4,400 ล้านบาท หลังเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 4,000 ล้านบาท เตรียมแถลงแผนธุรกิจและการเปิดโครงการใหม่ปี 62 ในวันที่ 7 ม.ค. 62 นี้

          นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทมียอดขาย (Presale) มูลค่ารวมมากกว่า 4,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากโครงการเดิมที่มีในพอร์ตและโครงการที่เปิดขายใหม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

          โดยในปี 2561 บริษัทยังคงมั่นใจยอดขายจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ 4,400 ล้านบาท ซึ่งในปี 2561 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวมเกือบ 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการ ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ คริป เทพารักษ์-ตำหรุ (LalinTown Lanceo Crib Teparak Tumru) เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น

          2. โครงการ แลนซีโอ คริป เพชรเกษม-ยอแซฟฯ (Lanceo Crib Phetkasem Joseph) เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น, 3. โครงการ ลลิล ทาวน์ แลนซีโอ คริป วงแหวนฯ-ลำลูกกา คลอง 6 (LalinTown Lanceo CRIB Wongwaen-Lamlukka klong 6) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น, 4. โครงการ ไลโอ บลิสซ์ รังสิต-คลองหลวง (Lio Bliss Rangsit-Klongluang) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น

          5. โครงการ ไลโอ บลิสซ์ ลำลูกกา-คลอง 2 (Lio Bliss Lamlukka-Klong 2) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น, 6. โครงการไลโอ อีลิท วัชรพล-สายไหม (Lio ELITE Watcharapol-Saimai) เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 7. โครงการ ลลิล ทาวน์ ไลโอ บลิสซ์ วงแหวนฯ-ลำลูกกา คลอง 6 (Lalin Town-Lio Bliss Wongwaen-Lamlukka klong 6) เป็นทาวน์โฮม

          ขณะที่รายได้รวมในปี 2561 บริษัทยังคงมั่นใจจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเป้าหมายรายได้รวมในปี 2561 จะเติบโต 13% หรือจะมีรายได้รวมที่ระดับ 4,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,598.92 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทมีรายได้รวมแล้วที่ 3,047.69 ล้านบาท จากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง

          “การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศเตรียมใช้เกณฑ์การให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) ใหม่ ช่วยเร่งการโอนกรรมสิทธิ์โครงการของลูกค้าในช่วงปลายปีให้เร็วขึ้นแต่ยังไม่มากนัก เพราะเกณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มใช้ในเดือนเมษายน 2562 ซึ่งยังมีเวลาเหลืออีก 3 เดือนก่อนใช้เกณฑ์ LTV ใหม่ คาดจะเห็นการโอนกรรมสิทธิ์มากขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงใกล้จะใช้เกณฑ์ LTV ใหม่ในเดือนเมษายน อีกทั้ง ในช่วงไตรมาสแรกของปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และพนักงานได้รับโบนัส ทำให้มีกำลังซื้อ” นายชูรัชฏ์ กล่าว

          ส่วนการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นทำให้ลูกค้าเร่งการตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น เพราะปัจจุบันดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์เร็วขึ้น ก่อนการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะกระทบกำลังซื้อของผู้ปริโภคอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องปรับขึ้นตามเศรษฐกิจโลก และปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยประเทศไทยก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ

          สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2562 ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณา โดยจะแถลงทิศทางการการดำเนินงานและแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ปี 2562 ในวันที่ 7 มกราคม 2562
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ