ตลาดคอนโดฯเมืองท่องเที่ยว  ดิ้นอีกหลายเฮือก รอศึกสงครามการค้าสงบ ด้านซัพพลายยังพุ่งต่อเนื่อง

          ตลาดคอนโดมิเนียมหัวเมืองท่องเที่ยวซบเซามานานจาก วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ แต่เมื่อ จีน ตอกย้ำปฏิเสธท่องเที่ยวไทย หลังเกิดอุบัติเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต ตามติดด้วย ศึกสงครามการค้ากฎเหล็กจำกัดการนำเงินออกนอกประเทศความมั่งคั่งจากการลงทุนหุ้นลดลงส่งผลให้การหวนซื้อ ห้องชุด  เพื่อลงทุน และพักผ่อนระยะยาว ของจีนมีอันต้องแผ่วลง ขณะซัพพลายที่เกิดจากการก่อสร้างรองรับตลาดยังคงเติมเข้ามาในตลาด

          แม้บางหัวเมืองเริ่มสร่างพิษไข้ลงบ้างเช่นภูเก็ต หัวหิน ชะอำ แต่ส่วนใหญ่เน้นพัฒนา โครงการในเขตอำเภอเมืองสำหรับกลุ่มคนไทยซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เนื่องจากที่ดินริมหาดหายากและแพง อีกทั้งกลุ่มกำลังซื้อประเภทบ้านพักตากอากาศลดลง

          ทั้งนี้ มุมมองของนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) ระบุว่าการฟื้นตัวของคอนโดมิเนียมเมืองชายทะเล หัวเมืองใหญ่คงต้องรอสงครามการค้า สงบศึก ซึ่งเชื่อว่าอีกยาวนาน และไม่แน่ใจว่าจะยุติลงเมื่อใด ทำให้ผู้ประกอบการพุ่งเป้าไปที่ ทำเลดังกล่าวลดลงยกเว้นแต่ ทำเลในย่านเขตเมืองที่รองรับกำลังซื้อคนไทย

          ขณะที่การสำรวจและวิจัยของ ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการบริษัท สรุปว่าเริ่มเห็นสัญญาณบวก ทำเลหัวหิน-ชะอำ หลังชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงหลายปี

          โดยพบว่าระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2561 มีคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาดรวม 1,041 ยูนิต เพิ่มขึ้นกว่า164% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

          โดยทำเลส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหัวหินและพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา มีเพียง 35% เท่านั้นที่ตั้งอยู่หน้าหาด หรือไม่ไกลจากริมทะเลมากนัก เนื่องจากที่ดินติดทะเลในชะอำ-หัวหินเริ่มหายากและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ระยะหลังผู้ประกอบการหันมาสนใจพัฒนาโครงการทำเลในเมืองมากขึ้น

          สำหรับสถานการณ์ตลาดในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะมีซัพพลายเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 200-300 หน่วย นับว่าเป็นผลดีในแง่การรักษาสมดุลของตลาดหลังจากผ่านช่วงชะลอตัวมาได้ไม่นาน  อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่อาจส่งผลลบคือมาตรการคุมสินเชื่อโดยธนาคารแห่งประเทศไทย