อินเด็กซ์ฯเผยปี62รุกเปิดสาขาใน-ตปท. 9เดือนโต4.6%กวาดรายได้7.2พันล้าน
Loading

อินเด็กซ์ฯเผยปี62รุกเปิดสาขาใน-ตปท. 9เดือนโต4.6%กวาดรายได้7.2พันล้าน

วันที่ : 21 ธันวาคม 2561
อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เผย ตัวเลข 3 ไตรมาส กวาดรายได้ 7,258 ล้านบาท เติบโต 4.6% ประกาศผนึกพันธมิตร ดึงนวัตกรรมใหม่เสริมทัพ อัดแคมเปญใหญ่ ดันยอดปลายปี พร้อมทุ่มงบกว่า 165 ล้านบาท พลิกโฉมใหม่ 6 สาขา
          อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เผย ตัวเลข 3 ไตรมาส กวาดรายได้ 7,258 ล้านบาท เติบโต 4.6% ประกาศผนึกพันธมิตร ดึงนวัตกรรมใหม่เสริมทัพ อัดแคมเปญใหญ่ ดันยอดปลายปี พร้อมทุ่มงบกว่า 165 ล้านบาท พลิกโฉมใหม่ 6 สาขา

          นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  กล่าวถึงภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านปี 2561 ว่าเติบโตแบบทรงตัว และเมื่อพิจารณาเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และในกลุ่มหัวเมืองใหญ่และจังหวัดท่องเที่ยว ยังถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดี ทั้งจากผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 480,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านแนวราบ 46% และคอนโดมิเนียม 54% ขณะที่ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี ประมาณ 430,000-440,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

          ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เองมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยงัดกลยุทธ์ด้านโปรโมชันตลอดจนกิจกรรมการตลาด เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ สิ้นปี 2561 ประมาณการอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท

          สำหรับผลประกอบการของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.61) ที่ผ่านมา มียอดขาย 7,258 ล้านบาท เป็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) อยู่ที่ 4.6% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาด(แชร์) ประมาณ 20%  ของตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ ขณะที่ยอดสมาชิกบัตร JOY CARD ของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1.1 ล้านราย

          โดยบริษัทฯ ยังคงนโยบายมุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุกในประเทศชัดเจน นอกจากปีนี้จะเปิดสาขาใหม่แล้ว 1 สาขา ยังมีแผนรีโนเวตสาขา ประเดิมที่สาขาบางนา  เพราะถือเป็นสาขาหนึ่งที่มีกำลังซื้อ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงสูง การปรับโฉมใหม่จึงได้เพิ่มการโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับสูงมากขึ้น และอีก 6 สาขาต่อเนื่องในปีหน้า

          ขณะเดียวกัน ในปี 2562 บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ สาขาชัยพฤกษ์, สาขาจันทบุรี, สาขารามอินทรา และสาขาสุขาภิบาล 3 ขณะที่ในต่างประเทศเตรียมวางแผนเดินหน้าขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์อีก 2 แห่ง ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเมืองจาการ์ตา และบาหลี ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าศักยภาพของตลาดค้า ปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในอินโดนีเซีย ยังมีอัตราการเติบโตในทิศทางที่ดี โดยปัจจัยสำคัญมาจากฐานประชากรขนาดใหญ่ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้ของประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค

          สำหรับการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ คาดว่าตลาดสามารถเติบโตได้ดี ผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น อีกทั้งมีการศึกษาตลาดต่างประเทศ ตลอดจนศักยภาพการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศนั้นๆ เพื่อลดอัตราเสี่ยงในด้านต่างๆ ทั้งนี้ กลุ่มประเทศที่ให้ความสนใจและมีศักยภาพค่อนข้างสูง ได้แก่ กลุ่มประเทศในอาเซียนนั่นเอง

          "เราพร้อมปรับตัวตามสถานการณ์ ไม่หยุดนิ่ง โดยยึดของดีมีคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ เราเชื่อว่าทิศทางปีหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยถึงปี 2565  โดยเฉพาะโครงข่ายพัฒนารถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมถึงการจัดให้มีการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้นปี 2562 นี้ เป็นสัญญาณทางการตลาดที่ดี ทั้งเป็นปัจจัยหนุนตลาดเฟอร์นิเจอร์ และตลาดอสังหาฯ ให้เติบโตยิ่งขึ้น"