ตฤณ น้องใหม่อสังหาฯลุยลงทุนเขตศก.พิเศษเชียงแสน
Loading

ตฤณ น้องใหม่อสังหาฯลุยลงทุนเขตศก.พิเศษเชียงแสน

วันที่ : 21 ธันวาคม 2561
"ตฤณ" อสังหาฯ น้องใหม่รุก ลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสน ผุดโปรเจกต์ยักษ์ "ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล" เนื้อที่ 3,139 ไร่ เปิดเฟสแรกมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้าน ประกอบด้วยโรงแรม เมดิคัลรีสอร์ท คอนโดฯผู้สูงอายุ ศูนย์กระจายสินค้า ธีมพาร์ค ฟุ้งต่างชาติเช่าซื้อที่ดินแล้วกว่า 800 ไร่
          "ตฤณ" อสังหาฯ น้องใหม่รุก ลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสน ผุดโปรเจกต์ยักษ์ "ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล" เนื้อที่ 3,139 ไร่ เปิดเฟสแรกมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้าน ประกอบด้วยโรงแรม เมดิคัลรีสอร์ท คอนโดฯผู้สูงอายุ ศูนย์กระจายสินค้า ธีมพาร์ค ฟุ้งต่างชาติเช่าซื้อที่ดินแล้วกว่า 800 ไร่

          นายตฤณ นิลประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตฤณ อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพัฒนาโครงการ"ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล" ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.เชียงแสน จ.เชียงรายเนื้อที่รวม 3,139 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของการจัดสรรที่ดินให้แก่นักลงทุน โดยทางบริษัทจะเป็นผู้วางมาสเตอร์เพลนทั้งโครง การเอาไว้ ส่วนนักลงทุนจะเลือกลงทุนตามความถนัด ซึ่งนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนภายในโครงการจะได้รับการยกเว้นภาษี 8 ปีและสิทธิพิเศษด้านอื่นๆ ที่รัฐบาลกำหนดให้สำหรับผู้ที่ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัจจุบันมีนักลงทุนเช่าซื้อที่ดินไปแล้ว 10 ราย พื้นที่กว่า 800 ไร่

          "การลงทุนในเชียงแสนครั้งนี้ เนื่องจากมองเห็นศักยภาพจากพื้นที่ดังกล่าวที่เชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งลาว จีน เมียนมา และยังรองรับการขยายตัวของเมืองเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน เช่นลาวที่มีทุนจีนเข้ามาสร้างเมืองขนาดใหญ่ สนามบินที่กำลังก่อสร้าง" นายตฤณ กล่าว

          ภายในโครงการตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ลจะประกอบด้วย โรงแรม รีสอร์ท, ศูนย์สุขภาพ ชะลอวัย, สวนสนุก (ธีมพาร์ค) สวนน้ำ, โซนพักผ่อนและนันทนาการ, ศูนย์สรรพสินค้า ร้านค้าที่ระลึกและศูนย์กระจายสินค้า, ศูนย์ประชุมนานาชาติ พื้นที่เกษตรกรรมเชิงท่องเที่ยว ที่พักอาศัยหรือคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุ สถานศึกษา สำหรับการพัฒนาจะแบ่งออกเป็นเฟส เฟสแรกพื้นที่ราว 1,200 ไร่ แบ่งเป็น 3 โซนๆ แรก เป็นในส่วนของเมดิคัล รีสอร์ท พื้นที่เกือบ 600 ไร่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของนักลงทุนจาก 4 ประเทศ คือ สิงคโปร์ จีน เกาหลี และมาเลเซีย โซนที่ 2 เป็นในส่วนเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ร้านค้า เอ็กซิบิชั่นฮอลล์ โรงแรม โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มทุนจีน มาเลเซียและสิงคโปร์ ส่วนโซนที่ 3 จะเป็นการลงทุนของ ตฤณ อินโนเวชั่น กรุ๊ป ประกอบด้วย เสาธงไทยที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 189 เมตร,ศูนย์การเรียนรู้,ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารพาณิชย์ โดยในเฟสแรกนี้จะใช้งบประมาณในการลงทุนประมาณ 40,000 ล้านบาท

          ส่วนในเฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 จะพัฒนาหลังจากที่ขายเฟสหนึ่งหมดแล้วหรือมีการพัฒนาเต็มพื้นที่ซึ่งคาดว่าในเฟส 1 จะใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 3 ปี โดยเมื่อ วันที่ 13 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โครงการได้ผ่านการทำประชาพิจารณ์เรียบร้อยแล้ว ซึงได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะโครงการดังกล่าวจะช่วย ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับอานิสงส์ในการจ้างงานมากขึ้น

          "ที่ผ่านมากลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเซ็นสัญญาเช่าที่ดินพัฒนาโครงการ จะเป็นชาวสิงคโปร์และมาเลเซีย มากที่สุด โดยการพัฒนาพื้นที่เราได้กำหนดแต่ละโซนอย่างชัดเจน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายผังเมืองและกฎเกณฑ์ของบริษัทฯด้วย คาดว่าในส่วนของเฟสแรกจะใช้ระยะเวลาในการพัฒนาทั้งสิ้น 3 ปี" นายตฤณ กล่าว
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ