AP โชว์ยอดขาย 11 เดือนแรก ทำได้แล้ว 41,460 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 39,800 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมโครงการร่วมทุนใน 9 เดือนแรกอยู่ที่ 27,113 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

          นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP เปิดเผยว่า ยอดขาย (Presale) ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีมูลค่ารวม 41,460 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายยอดขายทั้งปีของปีนี้ที่ตั้งไว้ 39,800 ล้านบาท แบ่งเป็น จากสินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียมมูลค่า 21,800 ล้านบาท และในกลุ่มโครงการแนวราบมูลค่า 19,660 ล้านบาท

          ขณะที่รายได้รวมในช่วง  9 เดือนแรกที่ผ่านมาอยู่ที่ 19,981.46 ล้านบาท ซึ่งหากรวมรายได้จากรายได้ของสินค้าโครงการแนวราบและโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุน (JV) 100% และธุรกิจอื่น ๆ มีรายได้รวมที่ 27,113 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 18,090 ล้านบาท

          โดยโครงการที่ผลักดันรายได้รวมให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คือโครงการ VITTORIO คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล Asian’s Best Condo Development ที่สุดของคอนโดมิเนียมหนึ่งเดียวในเอเชีย จากงาน Asian Property Award 2018 ที่คัดเลือกจากคอนโดมิเนียมกว่า 200 แห่งทั่วเอเชีย

          สำหรับโครงการ VITTORIO ตั้งอยู่ใจกลางเมืองใกล้ BTS พร้อมพงษ์ ราคาขายที่ 35-120 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถปิดการขายทั้งโครงการแล้ว นอกจากนี้ ยังมีโครงการ THE PALAZZO ศรีนครินทร์ เป็นคฤหาสน์หรู ที่เปิดตัวเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ราคาขายอยู่ที่ 29-60 ล้านบาทต่อยูนิต ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน

          “ปีนี้เป็นปีที่เราทำลายสถิติหลายอย่าง ทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่ในมูลค่ารวมที่สูงถึง 45,190 ล้านบาท ยอดขายรวมที่ทะลุเป้าไปแล้วกว่า 41,460 ล้านบาท และรายได้รวมในช่วง 9 เดือนแรก (รวมโครงการร่วมทุน) อยู่ที่ 27,113 ล้านบาท ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์” นายอนุพงษ์ กล่าว

          ด้านภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 เชื่อว่าการแข่งขันในตลาดกว่า 70% ยังคงเกิดจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน และทรัพยากรบุคคล ซึ่งความท้าทายของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจโลกแล้ว เศรษฐกิจภายในประเทศ และภาคการเมืองก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง

          นายอนุพงษ์ กล่าวอีกว่า อสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ผู้ประกอบการต้องวางแผนการแข่งขันในระยะยาวมากขึ้น ดังนั้นภาพรวมในระยะสั้นอย่างเปิดตัวโครงการแล้วประกาศขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมงคงเห็นได้น้อยลงในปีหน้า ซึ่งโจทย์ของผู้ประกอบการในอนาคตคือการกำหนดสินค้าและแพ็กเกจราคาขายที่สอดรับกับความสามารถในการซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ได้จริงของลูกค้า ซึ่งสิ่งนี้ คือคีย์สำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในครั้งนี้

          ทั้งนี้ บริษัทจะนำความสำเร็จเหล่านี้มาเป็นแรงขับเคลื่อน เป็นพลังในการทำงาน เพื่อพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะสร้างความแตกต่าง ทั้งด้านคุณภาพ พื้นที่ใช้สอย ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในการพักอาศัย เพื่อก้าวสู่เป้าหมายสูงสุด คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนให้กับคนไทยต่อไป