เปิดประมูลที่แม่สอด จังหวัดเล็งพัฒนาพื้นที่กว่า1,300ไร่กลางปีนี้ เอกชนแห่ลงทุน
Loading

เปิดประมูลที่แม่สอด จังหวัดเล็งพัฒนาพื้นที่กว่า1,300ไร่กลางปีนี้ เอกชนแห่ลงทุน

วันที่ : 31 มีนาคม 2560
เปิดประมูลที่แม่สอด จังหวัดเล็งพัฒนาพื้นที่กว่า1,300ไร่กลางปีนี้ เอกชนแห่ลงทุน

เปิดประมูลที่แม่สอด

จังหวัดเตรียมเปิดประมูลพื้นที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษอีก 1,300 ไร่ เป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรม

แม่สอดเปิดประมูลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมขยายที่อีก 1,600 ไร่ เป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมรับค้าชายแดนโต

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า เตรียมเปิดประมูลพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด ซึ่งอยู่ในพื้นที่วังตะเคียนจำนวน 1,345 ไร่ ในช่วงกลางปีนี้เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาลงทุนเปิดประตูการค้าชายแดนสู่ประเทศเมียนมา

นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาพื้นที่อีก 2 แปลง จำนวนพื้นที่รวม 1,638 ไร่ ให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการค้า โดยแปลงแรกประมาณ 838 ไร่ ซึ่งอยู่ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะเข้ามาพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรม คาดจะแล้วเสร็จปี 2562

ขณะนี้มีเอกชนขอเข้ารับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว 24 ราย โดยมีจำนวน 9 ราย ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนแล้ว และมี 2 รายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการแปรรูปเม็ดพลาสติกและอุตสาหกรรมสิ่งทอ ปัจจุบันสามารถเวนคืนพื้นที่ได้เกือบทั้งหมดแล้ว

สำหรับอีกแปลงประมาณ 800 ไร่ ที่อยู่ในพื้นที่ ต.แม่กาษา อ.แม่สอด ใกล้กับสะพานข้ามทางหลวงหมายเลข 105 มองว่า เป็นอีกพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เป็นเขตการค้า การลงทุนเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนได้

ด้าน นายวิศวะ ปิติสุขสมบัติ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า ในปี 2559 มูลค่าการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี มูลค่ารวมทั้งสิ้น 8.4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14% ที่มีมูลค่าการค้ารวม 7.3 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีปริมาณการเติบโอย่างต่อเนื่องจากปริมาณสินค้า ส่งออกของไทยที่สูงถึง 7.9 หมื่นล้านบาท ถือว่าได้เปรียบดุลการค้าเมียนมาอยู่มาก

อย่างไรก็ตาม ด้านปริมาณการจราจรผ่านแดนดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200-1,500 คัน/วัน คาดว่าหลังจากพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว ปริมาณการค้าการลงทุนจะพุ่งสูงขึ้นอีก ดังนั้นหากโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อมทั้งสะพาน ถนนและสนามบินจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้มากขึ้น ส่วนด้านการเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 นั้น มองว่าปริมาณการขนส่งสินค้าส่วนใหญ่จะย้ายมาอยู่ที่จุดผ่านแดนแห่งนี้ และลดความแออัดของการจราจรลงได้ เพราะปัจจุบันสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 มีเพียง 2 ช่องจราจร ซึ่งไม่เพียงพอต่อการขนส่งสินค้าจำนวนมาก

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

 

 

ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ