อสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทะลักเพราะเก็งกำไร ส่งผลให้ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างโค้งสุดท้ายฟื้นตัว รวมถึงกลุ่มซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ทำให้อัตราการทำกลุ่มวัสดุก่อสร้างมีกำไร 25-27%

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) เปิดเผยจำนวนอสังหาริม ทรัพย์เกิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเดือนกันยายนมีทั้งหมด 15,692 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 3,390 หน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 28% เนื่อง จากมีจำนวนโครงการเปิดใหม่เพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่มอาคารชุดที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่และมีจำนวนหน่วยขายต่อโครงการจำนวนมากขึ้น โดยผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่เดือนกันยายนเป็น 15 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) เกือบ 90%  คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พร็อพ เพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพ เพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ออลล์อินสไปร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม นายโสภณ ตั้งข้องสังเกตว่า โครงการที่เปิดใหม่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น แต่น่าจะเป็น การเก็งกำไรมากขึ้นมากกว่า ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่องก่อนสิ้นไตรมาส 3 มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้ง หมด 48 โครงการ เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมจำนวน 8 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 15,692 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 60,985 ล้านบาท

นายสาธิต สุดบรรทัด กรรม การผู้จัดการบริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT กล่าวถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อ สร้างช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ว่า ปรับตัวได้ดีกว่าช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เพราะกลุ่มลูกค้าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและผู้ประกอบการกลุ่มร้านค้า ร้านอาหารสั่ง ซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างไปปรับปรุงและตกแต่งร้านใหม่ เพื่อรองรับกำลังซื้อที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในช่วง 2 เดือนสุดท้าย ส่วนภาพ รวมเศรษฐกิจช่วงปลายปีประเมินว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากความชัดเจนด้านการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานของภาครัฐที่เริ่มก่อสร้าง ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริม ทรัพย์ลงทุนพัฒนาโครงการที่ อยู่อาศัยเพิ่มเติม รวมถึงการ ส่งออกที่เพิ่มขึ้นทำให้การค้าการลงทุนคึกคักมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานของ DRT ไตรมาส 3 ที่ผ่านมายังรักษาเป้าหมายอัตราการ ทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ 25-27% ไว้ได้ แม้ภาพรวมยอดขายมีโอกาส ชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากใน ไตรมาส 3 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นจากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ทำให้งานก่อ สร้างต้องชะลอตัว ประกอบกับบริษัทมีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตมีผลให้อัตราการเดินเครื่อง จักรลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 75% จากเป้าหมายเฉลี่ยทั้งปีที่ระดับ 80-90% ของกำลังการผลิตทั้งหมด