"ธนารักษ์" แจงยกเครื่องกฎหมายที่ราชพัสดุ โอนงานประเมินราคาที่ดินอยู่ใต้กำกับของคลัง ช่วยหนุนการ ดำเนินงานคล่องตัว มีประสิทธิ ภาพมากขึ้น เล็งปรับราคาประ เมินเป็น 2 ปี

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ ว่า การแก้ไขกฎหมายส่วนหนึ่งจะช่วยให้การประเมินที่ดินมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ กรมจะสามารถปรับการประเมินราคาที่ดินจากปกติทุก 4 ปี เป็น 2 ปี ซึ่งจะสามารถปรับราคาประเมินได้แบบรายวัน หรือรายเดือน และทำให้รัฐมีโอกาสในการเก็บรายได้จากที่ดิน หรือค่าธรรมเนียม ภาษีการโอนที่ดินต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น

"การแก้ไข พ.ร.บ. เรื่องการเพิ่มคณะกรรมการประเมินราคา รวมทั้งองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ในการประเมินราคา ที่ดิน ซึ่งเป็นการแก้ไขเพื่อทำ ให้การประเมินราคาที่ดินรายแปลงทั่วประเทศมีความคล่องตัวนั้น ได้มีการเปลี่ยนอำนาจคณะกรรมการประเมินราคาที่ ดินมาอยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะส่งผลให้การประเมินราคาที่ดินทำได้เป็น ปัจจุบันมากขึ้น" นายพชรกล่าว

สำหรับการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุจะแก้ไขเพิ่ม เติมคำนิยามให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น กำหนดข้อยกเว้นอสังหา ริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่ราชพัสดุ แก้ ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและ อำนาจหน้าที่ของคณะกรรม การที่ราชพัสดุ กำหนดวิธีการของการโอนกรรมสิทธิ์ของที่ราชพัสดุ ที่ราชพัสดุอื่น และที่ราชพัสดุที่ตั้งอยู่ในและนอกราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ การแก้กฎหมายครั้งนี้ จะช่วยเรื่องการใช้ที่ราชพัสดุในการทำโครงการที่ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี)

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตามกฎหมายเดิมการใช้พื้นที่ราชพัสดุจะต้องถูกนับรวมตี เป็นมูลค่าส่วนหนึ่งของโครง การด้วย แต่การแก้กฎหมายใหม่ ช่วยให้เอกชนสามารถเช่าที่ราชพัสดุในการทำโครงการพีพี พีเท่านั้น ทำให้การตีมูลค่าโครง การไม่สูงจนเกินความเป็นจริง เพราะไม่จำเป็นต้องตีมูลค่าที่ดินเข้าไปในโครงการ ซึ่งในส่วนที่ดินราชพัสดุ ก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เพราะเป็นเพียงการเช่าพื้นที่ราชพัสดุเท่านั้น