ก่อสร้างบูมคอนกรีตโต20% เมกะโปรเจ็กต์หนุนความต้องการเพิ่มยันไม่ปรับราคา
Loading

ก่อสร้างบูมคอนกรีตโต20% เมกะโปรเจ็กต์หนุนความต้องการเพิ่มยันไม่ปรับราคา

วันที่ : 26 เมษายน 2561
ก่อสร้างบูมคอนกรีตโต20% เมกะโปรเจ็กต์หนุนความต้องการเพิ่มยันไม่ปรับราคา

สมาคมคอนกรีตฯชี้แนวโน้มปีนี้ใช้คอนกรีตเพิ่ม กว่า 20% ยันไม่ปรับราคาและไม่ขาดแคลน เผยรายใหญ่มีออร์เดอร์ชัดเจน บริหารจัดการได้ สอดคล้องกับ CCP มั่นใจธุรกิจคอนกรีตแนวโน้มดี พร้อมส่งสินค้า Precast เข้าโมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2,800 ล้านบาท

นายณัฐพงศ์ มกระธัช เลขาธิการสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าแนวโน้มความต้องการใช้คอนกรีตปี 2561 นี้คาดว่าจะไม่น้อยกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่ผ่านมา เนื่องจากงานก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐที่ลงนามสัญญาเมื่อปลายปีที่ผ่านมาจะมีการก่อสร้างในปีนี้มากขึ้น อีกทั้งยังพบว่ามีความเคลื่อนไหวในความต้องการภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคอุตสาหกรรมอย่างโครงการในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มีมากขึ้นนั่นแสดงว่ามีแนวโน้มเติบโตทุกเซ็กเมนต์

ประการหนึ่งนั้นยังเกี่ยวข้องกับภาคการลงทุนดังจะเห็นได้จากกรณีที่รัฐบาลจีนได้สนับสนุนให้นักลงทุนจีนมาลงนามบันทึกความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและนักลงทุนไทยแล้วหลายโครงการ ประกอบกับปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นยังส่งผลบวกให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องล้วนมีการขยับตัวด้านการลงทุนที่จะส่งสัญญาณให้มีความต้องการเพิ่มการใช้ซีเมนต์ตามไปด้วย ดังนั้นในปีนี้จึงจะได้เห็นภาพงานก่อสร้างชัดเจนกว่าปีที่ผ่านมา

"ภาคเอกชนจะมีความต้องการใช้งานในโครงการผลิตโครงสร้างสำเร็จรูป โดยเฉพาะงานที่พักอาศัยและงานโครงการต่างๆ นอกจากนั้นภาครัฐยังสนับสนุนด้านระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของภาคเอกชนจึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและจังหวัดสำคัญของไทย เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้นแต่สมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทยยังขอไม่ให้มีการปรับราคา ยืนยันว่าสินค้าปูนซีเมนต์ไม่ขาดตลาด เนื่องจากภาคเอกชนรายใหญ่มีการวางแผนและแจ้งออร์เดอร์โครงการล่วงหน้าส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตสามารถบริหารจัดการได้อย่างสอดคล้องกับความต้องการได้"

ด้าน นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมคอนกรีตปีนี้พบว่ามีแนวโน้มความต้องการใช้มากขึ้น โดยเป็นผลจากการลงทุนงานโครงสร้างพื้นฐานในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อาทิ  ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด สนามบินอู่ตะเภา ทยอยเริ่มดำเนินงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง

"ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ 2,800 ล้านบาท แผนการดำเนินงานในปีนี้ยังมุ่งเน้นการเข้ารับงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เน้นออกสินค้า  Precast นวัตกรรมใหม่ รองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน และงาน Landscape ซึ่งมีความต้องการใช้งานเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งมุ่งเน้นการเปิดตลาดใหม่ รวมทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปผ่านโมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยบริษัทจะทยอยประมูลงานเข้ามาเพิ่มเพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำ กว่า 2,000 ล้านบาท"

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ